เปิดพระราชประวัติ ‘เจ้าชายฟิลิป’ กว่า 70 ปี ทรงเคียงข้างบัลลังก์อังกฤษ  

The electronic billboard at Piccadilly Circus displays a tribute to Britain's Prince Philip, Duke of Edinburgh in central London on April 9, 2021 after the announcement of the duke's death.

เจ้าชายฟิลิป พระสวามีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และดยุกแห่งเอดินบะระห์ สิ้นพระชนม์แล้วเมื่อวันศุกร์ด้วยพระชันษา 99 ปี หลังจากทรงเป็นคู่ชีวิตและทรงสนับสนุนองค์พระประมุขแห่งอังกฤษมากว่าเจ็ดทศวรรษ ถือเป็นคู่สมรสขององค์พระประมุขที่ทรงดำรงตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ

สำนักข่าว The Associated Press รายงานว่า เจ้าชายฟิลิปทรงเป็นที่รู้จักในหลากหลายแง่มุม ทั้งพระราชกระแสที่บางครั้งเป็นไปในแนวเหยียดเชื้อชาติและเหยียดเพศ ไปจนถึงพระราชกรณียกิจทั้งในและต่างประเทศกว่า 20,000 ครั้ง ทรงเป็นองค์ประธานของโครงการการกุศลหลายร้อยโครงการ เช่น โครงการสนับสนุนให้นักเรียนอังกฤษทำกิจกรรมกลางแจ้ง รวมทั้งยังทรงมีบทบาทสำคัญในการเลี้ยงดูพระราชบุตรและพระราชธิดาทั้งสี่พระองค์ รวมถึงรัชทายาทอันดับหนึ่งอย่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์

เจ้าชายฟิลิปประทับในโรงพยาบาลมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก่อนจะทรงกลับมาประทับที่พระตำหนักวินเซอร์เมื่อวันที่ 16 มีนาคม และสิ้นพระชนม์อย่างสงบเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ ตามแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังอังกฤษ

เจ้าชายฟิลิปทรงได้รับพระอิสริยยศเป็นดยุกแห่งเอดินบะระห์ในวันพระราชพิธีอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ขณะที่สมเด็จพระราชินีนาถเริ่มรัชกาลของพระองค์ในช่วงที่อังกฤษถอยบทบาทจากการเป็นเจ้าอาณานิคมเข้าสู่โลกยุคสมัยใหม่ที่อังกฤษมีบทบาทในเวทีโลกลดลง และประชาชนต่างคาดหวังในบทบาทการวางตัวของราชวงศ์มากขึ้น

FILE - In this June 19, 1962 file photo, Britain's Queen Elizabeth II and Prince Philip travel by open carriage around the track prior to the race program, at Ascot, England.

สมเด็จพระราชินีนาถมักทรงรักษาความเป็นส่วนพระองค์ และมักไม่ทรงแสดงความรักใคร่อย่างเปิดเผยในที่สาธารณะมากนัก พระองค์เคยทรงเรียกเจ้าชายฟิลิปว่า “ก้อนหิน (สิ่งยึดมั่น)ของฉัน” (my rock)ครั้งหนึ่งต่อสาธารณชน ส่วนในเวลาที่มีรับสั่งกันเป็นการส่วนพระองค์ เจ้าชายฟิลิปจะทรงเรียกสมเด็จพระราชินีนาถว่า “ลิลีเบ็ท” (Lilibet) แต่จะทรงเรียกพระองค์ขณะทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้อื่นว่า “พระราชินี”

ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ภาพลักษณ์ของเจ้าชายฟิลิปเปลี่ยนจากนักกีฬาหนุ่มแน่นที่ทรงพระสิริโฉม เป็นเจ้าชายอารมณ์ร้ายที่แลดูไม่ทรงสนพระทัยในความรู้สึกผู้ฟังมากนั้น จนถึงช่วงบั้นปลายของพระชนม์ชีพ ที่ภาพลักษณ์ของพระองค์ดูเป็นเจ้าชายที่อารมณ์ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังทรงแสดงความสนพระทัยในปรัชญา และยังทรงมีบุคลิกแบบนายทหารแม้จะทรงพระพระประชวรและมีพระชันษาที่สูงมากแล้วก็ตาม

ซีรีส์เรื่อง “เดอะ คราวน์” (The Crown) ทางเน็ตฟลิกซ์ ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง วางบทเจ้าชายฟิลิปเป็นหนึ่งในตัวนำของเรื่อง โดยวางภาพลักษณ์ให้พระองค์ทรงมีพระบุคลิกเกเรและเหยียดเชื้อชาติเล็กน้อย โดยแม้เจ้าชายฟิลิปจะไม่เคยทรงรับสั่งถึงซีรีส์เรื่องนี้ แต่ “เดอะ คราวน์” ก็สร้างภาพจำของพระองค์ต่อชาวอังกฤษ รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่ก่อนหน้านี้มักรู้จักพระองค์ในฐานะเชื้อพระวงศ์ที่ทรงมีพระชันษาสูงเท่านั้น

บทบาทของเจ้าชายฟิลิปในราชวงศ์อังกฤษถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง เนื่องจากไม่มีการกำหนดบทบาทของพระราชสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถอย่างเป็นทางการ และบทบาทของพระองค์ในที่สาธารณะกับชีวิตส่วนพระองค์ก็แตกต่างกันอย่างมาก

เจ้าชายฟิลิปมักพระราชดำเนินตามหลังสมเด็จพระราชินีนาถสามก้าวในที่สาธารณะเพื่อแสดงความนับถือต่อองค์พระประมุข แต่ในชีวิตส่วนพระองค์นั้น ทรงมีบทบาทเป็นผู้นำครอบครัว อย่างไรก็ตาม รัชทายาทอันดับหนึ่งอย่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กลับทรงมีรายได้มากกว่า และทรงสามารถเข้าถึงเอกสารราชการระดับสูงที่เจ้าชายฟิลิปทรงไม่สามารถเข้าถึงได้

เจ้าชายฟิลิปเคยทรงมีรับสั่งว่า “ตามรัฐธรรมนูญแล้ว เราไม่มีตัวตน” พระองค์ยังเคยประทานบทสัมภาษณ์แก่สำนักข่าวบีบีซี เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชันษาครบ 90 ปีว่า “ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีบทบาทแบบเรามาก่อน ถ้าเราถามใครซักคนว่า ‘คุณคาดหวังว่าเราต้องทำอะไร’ พวกเขาก็ดูไม่รู้เหมือนกัน”

แม้เจ้าชายฟิลิปจะทรงเลิกประกอบอาชีพในกองทัพเรือเพื่อทรงอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชินีนาถเมื่อทรงมีพระชันษา ปี แต่เจ้าชายฟิลิปก็ยังคงทรงประกอบพระราชกรณียกิจรสนับสนุนอุตสาหกรรมและวงการวิทยาศาสตร์ของอังกฤษ ทรงสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมานาน และเสด็จประพาสไปตามที่ต่างๆ เพื่อสนับสนุนโครงการการกุศลของพระองค์

FILE - In this Jan. 21, 1959 file photo, India's Prime Minister Jawaharlal Nehru welcomes Britain's Prince Philip to New Delhi, India.

สาธารณชนมักจำภาพลักษณ์ของพระองค์ในฐานะพระราชวงศ์ที่ทรงใจร้อน มักทรงเรียกร้อง และทรงมีรับสั่งตรงไปตรงมาจนบางครั้งแลดูไม่สุภาพ แม้ชาวอังกฤษบางส่วนจะชื่นชอบความตรงไปตรงมาของพระองค์ แต่บางส่วนก็วิจารณ์ว่าพระองค์ทรงมีพฤติกรรมก้าวร้าว

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อปีค.ศ. 1995 ทรงเคยมีรับสั่งถามครูสอนขับรถชาวสก็อตว่า “คุณทำอย่างไรให้ชาวสก็อตหยุดดื่มเหล้านานพอที่จะสอบขับรถผ่านได้” ต่อมาในปีค.ศ. 2002 ก็ทรงรับสั่งถามชาวพื้นเมืองอะบอริจินในออสเตรเลียว่า “พวกคุณยังเขวี้ยงหอกใส่กันรึเปล่า?”

นักวิเคราะห์เชื่อว่า การที่เจ้าชายฟิลิปทรงมีความตรงไปตรงมาแสดงว่าทรงสามารถถวายคำแนะนำที่จำเป็นต่อสมเด็จพระราชินีนาถได้ ในขณะที่องค์พระประมุขของอังกฤษถูมักกรายล้อมไปด้วยผู้คนที่พร้อมจะทำตามพระกระแสรับสั่งเท่านั้น

โรเบิร์ต เลซีย์ นักประวัติศาสตร์ด้านพระราชวงศ์ ระบุว่า เจ้าชายฟิลิปทรงรับสั่งกับพระราชวงศ์ในฐานะผู้นำครอบครัวเมื่อครั้งที่เจ้าหญิงไดอานาทรงหย่าขาดจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ โดยความสัมพันธ์ของเจ้าชายฟิลิปกับเจ้าหญิงไดอานาซับซ้อนขึ้นเมื่อการหย่าร้างของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าหญิงไดอานากลายเป็นสงครามผ่านสื่อ

เคยมีการคาดการณ์ว่า เจ้าชายฟิลิปทรงไม่พอพระทัยที่เจ้าหญิงไดอานาพระราชทานบทสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ รวมถึงบทสัมภาษณ์ที่ทรงกล่าวหาเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ว่าทรงนอกพระทัยพระองค์ อย่างไรก็ตาม จดหมายระหว่างเจ้าชายฟิลิปและเจ้าหญิงไดอานาที่เผยแพร่หลังเจ้าหญิงไดอานาสิ้นพระชนม์ เผยให้เห็นว่าเจ้าชายฟิลิปทรงสนับสนุนพระสุณิสาในขณะนั้น

หลังเจ้าหญิงไดอานาสิ้นพระชนม์จากเหตุรถชนเมื่อปีค.ศ. 1997 โมฮาเหม็ด อัล ฟาเยด เจ้าของห้างแฮร์รอดและบิดาของโดดิ ฟาเยด ผู้อยู่ในรถคันเดียวกับเจ้าหญิงไดอานาขณะเกิดเหตุและเสียชีวิตด้วยเช่นกัน กล่าวหาเจ้าชายฟิลิปว่าทรงวางแผนให้เกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าวขึ้นน อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาอาวุโสที่ทำหน้าที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพบอกกับคณะลูกขุนว่าไม่มีหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาดังกล่าว

Queen Elizabeth II Prince Philip Princess Diana


ในช่วงบั้นปลายพระชนม์ชีพของพระองค์ สมาชิกพระราชวงศ์ยังมีเรื่องราวความขัดแย้งมากมาย เช่น เจ้าชายแอนดรูว์ พระราชบุตรของพระองค์ ที่ทรงพัวพันกับเจฟฟรีย์ เอพสตีน ผู้บริหารกองทุนชาวอเมริกันที่เสียชีวิตในคุกขณะรอการไต่สวนข้อหาค้าประเวณี โดยทางการสหรัฐฯ ระบุว่า เจ้าชายแอนดรูว์ทรงไม่ให้ความร่วมมือในฐานะพยาน และหญิงคนหนึ่งกล่าวหาว่า ทรงมีความสัมพันธ์ทางเพศกับเธอหลายครั้งตามคำสั่งของเอพสตีน หลังจากนั้น เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน มาร์เคิล ก็ทรงประกาศว่าจะไม่ทรงปฏิบัติภารกิจในฐานะพระราชวงศ์และย้ายมาอยู่สหรัฐฯ


พระราชประวัติของเจ้าชายฟิลิป

เจ้าชายฟิลิปประสูติเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ.1921 บนโต๊ะเสวยในที่ประทับในเกาะคอร์ฟู ประเทศกรีซ ทรงเป็นทายาทพระองค์ที่ห้า และเป็นพระราชบุตรพระองค์เดียวของเจ้าชายแอนดริว พระอนุชาของกษัตริย์แห่งกรีซ พระอัยกาของเจ้าชายฟิลิปเสด็จจากเดนมาร์กในช่วงทศวรรษที่ 1860 เพื่อมาทรงดำรงตำแหน่งกษัตริย์แห่งกรีซ

พระมารดาของพระองค์คือเจ้าหญิงอลิซแห่งบัทเทินแบร์ก โดยทรงสืบเชื้อสายจากเจ้าชายเยอรมัน ทั้งเจ้าชายฟิลิปและสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่สอง ต่างทรงเป็นพระราชปนัดดาของสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรียทั้งสองพระองค์

เมื่อเจ้าชายฟิลิปทรงมีพระชันษา 18 เดือน พระบิดาและพระมารดาทรงย้ายที่ประทับไปที่ฝรั่งเศส เจ้าชายแอนดริวทรงถูกสอบสวนในฐานะผู้บังคับบัญชากองทัพบกหลังกองทัพกรีซพ่ายแก้ต่อตุรกี เจ้าชายแอนดริวไม่ทรงถูกพิพากษาประหารชีวิต หลังทางการอังกฤษเข้ามาแทรกแซงรัฐบาลทหารของกรีซ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องทรงออกจากกรีซไป

พระบิดาและพระมารดาทรงแยกทางกันเมื่อเจ้าชายฟิลิปยังทรงพระเยาว์ เจ้าชายแอนดริวสิ้นพระชนม์ที่มงเต-การ์โล ประเทศโมนาโก ส่วนเจ้าหญิงอลิซทรงก่อตั้งลัทธิทางศานาแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ก่อนทรงใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายที่พระราชวังบัคกิงแฮมโดยไม่ทรงเผยพระองค์ในที่สาธารณะมากนัก เจ้าหญิงอลิซสิ้นพระชนม์เมื่อปีค.ศ. 1969 และได้รับเกียรติจากทางการอังกฤษและอิสราเอลหลังสิ้นพระชนม์ จากพระกรณียกิจที่ทรงดูแลครอบครัวชาวยิวครอบครัวหนึ่งในกรุงเอเธนส์ระหว่างที่ถูกนาซียึดครอง

เจ้าชายฟิลิปทรงรับการศึกษาในอังกฤษ และทรงเป็นนักเรียนนายร้อยในวิทยาลัยกองทัพเรือดาร์ทมัธเมื่อปีค.ศ. 1939 ทรงออกประจำการครั้งแรกในปีถัดมา แต่ทรงไม่ได้รับอนุญาตให้ประจำการใกล้เขตสงครามเนื่องจากทรงเป็นเจ้าชายจากประเทศที่เป็นกลางในสงคราม ต่อมาเมื่ออิตาลีบุกเข้ากรีซ จนทำให้กรีซเข้าร่วมสงคราม เจ้าชายฟิลิปก็ทรงเข้าร่วมรบบนเรือรบทั้งในมหาสมุทรอินเดีย ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และมหาสมุทรแปซิฟิค

Britain Prince Philip

ระหว่างช่วงพักผ่อนที่อังกฤษ เจ้าชายฟิลิปทรงเยี่ยมพระญาติในอังกฤษ และเมื่อสงครามสิ้นสุด ก็เป็นที่แน่ชัดว่าทรงต้องการสานสัมพันธ์กับเจ้าหญิงเอลิซาเบธ พระราชธิดาองค์โตและรัชทายาทของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 ทั้งสองพระองค์ทรงหมั้นกันในวันที่ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 และทรงประกอบพิธีอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน

แม้ในเบื้องต้นจะมีกระแสไม่เห็นด้วยที่รัชทายาทอันดับหนึ่งของบัลลังก์อังกฤษจะทรงเสกสมรสกับชาวต่างชาติ แต่ทักษะด้านกีฬา พระสิริโฉม และความตรงไปตรงมาของพระองค์ก็ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของราชวงศ์อังกฤษได้

เจ้าชายฟิลิปและเจ้าหญิงเอลิซาเบธทรงมีพระธิดาหนึ่งพระองค์และพระบุตรหนึ่งพระองค์ ก่อนที่พระเจ้าจอร์จที่ 5 จะสวรรคตจากโรคมะเร็งเมื่อปีค.ศ. 1952 ด้วยพระชนมายุ 56 พรรษา ทำให้เจ้าชายฟิลิปต้องทรงลาออกจากกองทัพเรือเพื่อทรงอยู่เคียงข้างสมเด็จพระราชินีนาถอย่างเต็มตัว ทรงดูแลอสังหาริมทรัพย์ของพระราชวงศ์ และเสด็จพระราชดำเนินไปทั่วโลกเพื่อทรงสร้างบทบาทของพระองค์เอง

นับตั้งแต่ปีค.ศ. 1956 ทรงเป็นองค์ประธานและองค์อุปภัมภ์ของโครงการรางวัลดยุกแห่งเอดินบะระห์ (Duke of Edinburgh’s Award) ซึ่งเป็นโครงการกิจกรรมเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดของอังกฤษและมีเครือข่ายในกว่า 100 ประเทศ โดยเป็นโครงการส่งเสริมกิจกรรม วัฒนธรรม และการผจญภัยของเยาวชน เจ้าชายฟิลิปยังทรงงานศิลปะสมัยใหม่ และทรงสะสมงานศิลปะ และทรงมีความสนพระทัยในการออกแบบอุตสาหกรรม และยังทรงออกแบบสวนในพระราชวังวินเซอร์ด้วย

Britain Prince Philip



ต่อมาเมื่อทรงเจริญพระชันษามากขึ้น เจ้าชายฟิลิปยังคงทรงกระฉับกระเฉงและมีพระพลานามัยแข็งแรง อย่างไรก็ตาม เมื่อทรงมีพระชันษา 90 พรรษาเมื่อปีค.ศ. 2011 เจ้าชายฟิลิปตรัสกับสำนักข่าวบีบีซีว่า ทรงลดพระกรณียกิจลงและทรงเห็นว่าทรง “ทำงานในส่วนของพระองค์” ไปแล้ว

หลังจากนั้น เจ้าชายฟิลิปเสด็จประทับที่โรงพยาบาลบ้างเป็นครั้งคราว และทรงประกาศในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2017 ว่า ทรงวางแผนงดประกอบพระกรณียกิจหลังทรงงานมาราว 22,000 ครั้งนับตั้งแต่สมเด็จพระราชินีนาถทรงขึ้นครองราชย์ ต่อมาในปีค.ศ. 2019 ทรงยกเลิกใบขับขี่ส่วนพระองค์หลังเกิดเหตุรถชน

สำหรับสมาชิกในครอบครัวของพระองค์ที่ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่นั้น ได้แก่ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าหญิงแอนน์ เจ้าชายแอนดรูว์ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระราชนัดดาอีกแปดพระองค์ รวมทั้งเจ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าชายแฮร์รี่ และพระราชปนัดดาอีกเก้าพระองค์

People add flowers to the tributes laid at the railings at the front of Buckingham Palace in central London on April 9, 2021 after the annoucement of the death of Britain's Prince Philip, Duke of Edinburgh.