นักวิชาการสหรัฐฯ ระบุว่าการประชุม US-ASEAN SUMMIT ในนครนิวยอร์ค คือการแสดงความชัดเจนของสหรัฐฯ ที่จะเริ่มต้นเข้าไปมีบทบาทในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น

  • พินิจการณ์ ตุลาชม
นักวิชาการสหรัฐฯ ระบุว่าการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯ หรือ US-ASEAN SUMMIT ในนครนิวยอร์ค คือการแสดงความชัดเจนของสหรัฐฯที่จะเริ่มต้นเข้าไปมีบทบาทในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น

การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน -สหรัฐฯ US-ASEAN Summit ที่นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ที่นครนิวยอร์ค กลายเป็นสิ่งที่น่าจับตามองถึงท่าทีของสหรัฐฯที่เตรียมเข้าไปมีบทบาทในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น

ศาสตราจารย์ อมิทาฟ อัจชารยา (Amitav Acharya) ประธานศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา School of International Service หรือ SIS จาก American University ในกรุงวอชิงตัน วิเคราะห์บทบาทของสหรัฐฯเกี่ยวกับการประชุมในครั้งนี้ ว่า นอกจากจะเป็นการแสดงจุดยืนของสหรัฐฯอย่างชัดเจนเพื่อเข้าไปมีบทบาทในภูมิภาคอาเซียน แล้ว ประเทศในภูมิภาคอาเซียนก็ต้องการให้สหรัฐฯเข้ามามีบทบาทเช่นกัน เพื่อสร้างความสมดุลในภูมิภาคอย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าสหรัฐฯจะไม่เข้าไปมีบทบาทด้านการทหารเท่านั้น แต่จะเป็นทางด้านความร่วมมือด้านสังคม การเมือง และเศรษฐกิจให้มากขึ้น

ด้านศาสตราจารย์ เป็กคุน เฮ็ง (Pek Koon Heng) ผู้อำนวยการศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ American University ระบุว่า ภูมิภาคอาเซียนกำลังเป็นที่น่าจับตามองเพราะนอกจากจะมีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน แล้ว ในภาคเอกชนยังมีความตื่นตัวเช่นกัน เพราะล่าสุดศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ของ American University ได้เปิดเวทีเสวนาโต๊ะกลม ระดมสมอง นักวิชาการชั้นนำ จากภาครัฐและภาคเอกชนของสหรัฐฯ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหม เพื่อวิเคราะห์สรุปเป็นข้อเสนอแนะนำเสนอต่อรัฐบาลสหรัฐฯ และจะมีส่วนกำกับนโยบายของสหรัฐฯต่ออาเซียนในอนาคตได้รอบด้านและครอบคลุมหลายมิติมากขึ้น

การประชุมสุดยอดผู้นำประเทศอาเซียน -สหรัฐฯ หรือ US-ASEAN Summit ที่มหานครนิวยอร์ค เป็นการจัดการประชุมครั้งที่สองต่อจากการประชุมสุดยอดผู้นำที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อปีที่ผ่านมา แต่สำหรับครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีประชุมผู้นำจากประเทศอาเซียนบนแผ่นดินสหรัฐฯ และยังมีท่าทีจากแถลงการณ์ของสหรัฐฯที่จะขอให้จัดการประชุมลักษณะนี้เป็นประจำทุกปีต่อจากนี้