สำนักข่าว The Associated Press รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความว่า เขาจะไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโจ ไบเดน ในวันที่ 20 มกราคม สวนทางกับคำประกาศของเขาเองก่อนหน้านี้ที่กล่าวว่า เขาจะรับรองให้มีการ “เปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างเป็นระเบียบและไร้รอยต่อ”
การตัดสินใจไม่เข้าร่วมพิธีของผู้นำสหรัฐฯ เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดไว้ เนื่องจาก ปธน. ทรัมป์พยายามอ้างชัยชนะการเลือกตั้ง รวมถึงอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้งอย่างไม่มีหลักฐาน แม้รัฐบาลของเขาเองจะระบุว่าการเลือกตั้งเป็นไปอย่างยุติธรรมก็ตาม
ปธน. ทรัมป์ ไม่ได้ระบุว่าเขาจะใช้ช่วงเวลาสุดท้ายในตำแหน่งอย่างไร และเขาจะเป็นประธานาธิบดีคนแรก นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสันเมื่อ 152 ปีที่แล้วที่ไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตนของผู้ที่รับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ต่อจากเขา
ทั้งนี้ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ผู้นำสหรัฐฯ ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งและผู้ที่รับตำแหน่งต่อ จะนั่งรถไปด้วยกันเพื่อเข้าร่วมพิธีที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ
ท่าทีของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นสองวันหลังจากที่กลุ่มผู้สนับสนุนของเขาเข้ายึดอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เป็นเวลาหลายชั่วโมง ขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสกำลังรับรองผลการลงคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง เพื่อยืนยันชัยชนะชองไบเดน
แหล่งข่าวใกล้ชิดกับรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ และแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับแผนงานพิธีสาบานตน คาดว่า รอง ปธน. จะเข้าร่วมพิธีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เดวิน แมลลีย์ โฆษกของเพนซ์ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ว่า เพนซ์และภรรยายังไม่ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมพิธีหรือไม่
ทีมงานการรับมอบอำนาจของว่าที่ ปธน. ไบเดน ยังไม่มีท่าทีต่อการประกาศของ ปธน. ทรัมป์ อย่างไรก็ตาม เจน ซากี ว่าที่โฆษกทำเนียบขาวของไบเดน กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ไม่ว่า ปธน. ทรัมป์จะเข้าร่วมพิธีหรือไม่ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่สุดของไบเดน
เมื่อวันพฤหัสบดี ผู้นำสหรัฐฯ เผยแพร่วิดีโอประณามความรุนแรงที่ทำในนามของเขาทางทวิตเตอร์ หลังกลับมาใช้งานทวิตเตอร์ได้อีกครั้ง เขายังยอมรับครั้งแรกว่าวาระของเขากำลังจะหมดลงแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่เอ่ยถึงชื่อไบเดนหรือประกาศยอมรับความพ่ายแพ้อย่างชัดเจนก็ตาม
ผู้ช่วยในทำเนียบขาวระบุว่า ปธน. ทรัมป์เผยแพร่วิดีโอดังกล่าวเพื่อพยายามชะลอการลาออกของเจ้าหน้าที่รัฐบาล และเพื่อกันตัวเขาเองจากการถูกดำเนินคดีเมื่อเขาหมดวาระลงแล้ว โดยแพท ซิโพลโลน ที่ปรึกษาทำเนียบขาว เตือนว่า ผู้นำสหรัฐฯ อาจต้องรับผิดชอบต่อการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงครั้งนี้ขึ้น
อย่างไรก็ตาม ต่อมาในวันศุกร์ ปธน. ทรัมป์ก็กลับมาทวีตข้อความในรูปแบบเดิม โดยเขาไม่ได้กล่าวไว้อาลัยแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่้เสียชีวิตจากการบาดเจ็บในช่วงการจลาจล แต่ทวีตข้อความยกย่อง “ชาวอเมริกันรักชาติผู้ยิ่งใหญ่” ที่ลงคะแนนเสียงให้เขา
“พวกเขา (ผู้สนับสนุนทรัมป์) จะไม่ถูกดูหมิ่นหรือถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม!!!” ทรัมป์ระบุในทวีตข้อความ