สหรัฐฯถอนวีซ่าชาวซาอุฯ ที่ต้องสงสัยเกี่ยวพันการสังหารนักข่าว 'คาชอกกี'

U.S. Secretary of State Mike Pompeo speaks at the State Department in Washington, Oct. 3, 2018.

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอกล่าววันอังคารว่าสหรัฐฯกำลังยกเลิกวีซ่าชาวซาอุดิอาระเบียที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวพันกับการสังหารนักข่าว จามาล คาชอกกี ผู้ที่วิพากวิจารณ์มกุฎราชกุมารโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน ของซาอุฯ

รัฐมนตรีพอมเพโอ กล่าวด้วยว่าสหรัฐฯกำลังดูช่องทางการใช้อำนาจตามกฎหมายอเมริกัน ภายใต้พระราชบัญญัติ Global Magnitsky Act ในการลงโทษคนเหล่านี้

Jamal l Khashoggi

อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีวีซ่าเข้าอเมริกาของชาวซาอุดิอาระเบียกี่รายที่ถูกยกเลิก

และเมื่อถูกถามว่า มกุฎราชกุมารโมฮัมหมัด บิน ซัลมานมีบทบาทอย่างไรหรือไม่ต่อการสังหาร นายคาชอกกี ซึ่งเป็นคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์อเมริกัน Washington Post รัฐมนตรีพอมเพโอกล่าวว่า "ขณะนี้เรากำลังศึกษาข้อเท็จจริงอยู่"

เมื่อวันศุกร์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของซาอุฯ นาย อเดล อัล จูเบียร์ กล่าวว่าการสังหารนายคาชอกกี เป็นการกระทำที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ แต่ปฏิเสธว่ามกุฎราชกุมาร บิน ซัลมานเป็นผู้ออกคำสั่งฆ่าคอลัมนิสต์ผู้นี้

Saudi Crown Prince, Mohammed bin Salman, center, and Jordan's King Abdullah II second left, attend the Future Investment Initiative conference, in Riyadh, Saudi Arabia, Tuesday, Oct. 23, 2018.

ข่าวการยกเลิกวีซ่าครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก สหรัฐฯร่วมประณาม "อย่างรุนแรงที่สุด" ต่อการสังหารนายคาชอกกี ในแถลงการณ์ของประเทศกลุ่มจี 7

รัฐมนตรีที่เข้าร่วมการประชุมจี 7 ซึ่งมีสมาชิกเป็นประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก กล่าวว่าต้องมีการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

นายคาชอกกี ถูกสังหารที่สถานกงสุลซาอุดิอาระเบียที่นครอิสตันบูลของตุรกีซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาเดินทางไปทำธุระด้านเอกสารเพื่อเเต่งงานใหม่ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม

ตำรวจตุรกีกล่าวว่า นายคาชอกกีถูกสังหารภายในสถานกงสุล ศพของเขาถูกตัดออกเป็นชิ้นๆ และตำรวจให้ข้อมูลถึงความเป็นไปได้ว่าน่าจะมีการวางแผนมาอย่างดี

แม้ทางการซาอุดิอาระเบียยอมรับว่า นายคาชอกกีถูกสังหารจริง แต่ให้ข้อมูลในลักษณะที่ว่าเหตุการณ์นี้เป็นฝีมือของกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุเพียงลำพังไม่ได้รับคำสั่งจากใคร (rogue agents)

ทางการริยาดให้รายละเอียดว่า บุคคลเหล่านี้มีปากเสียงกับนายคาชอกกี และเกิดการทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงจนทำให้เขาเสียชีวิต ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้ก่อเหตุอาจไม่ได้วางแผนสังหารมาก่อน

ในช่วงราวหนึ่งปีที่ผ่านมา นายคอชอกกีซึ่งมีสัญชาติซาอุฯอาศัยอยู่ในสหรัฐฯเป็นหลัก เนื่องจากกังวลถึงความปลอดภัยของตน หลังเขียนบทความวิจารณ์ราชวงศ์ซาอุฯบ่อยครั้ง