การค้นพบเอกสารของทางการสหรัฐฯ เพิ่มเติมที่บ้านพักของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ชาวอเมริกันเกินครึ่งในการสำรวจความเห็นล่าสุดมองว่าผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบันและคนก่อนหน้าจัดการเรื่องเอกสารลับของทางการอย่างไม่เหมาะสมนัก พร้อมเรียกร้องให้มีการค้นหาคำตอบในเรื่องนี้ด้วย
หลังจากสำนักงานสืบสวนกลางของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ ค้นบ้านของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ เมื่อวันศุกร์ และพบเอกสารของทางการสหรัฐฯ ที่มีสัญลักษณ์ของถูกจัดชั้นความลับไว้อีก 6 ชุด รวมทั้งบันทึกของไบเดน ซึ่งเอกสารบางอย่างนั้น ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยปธน.ไบเดนเป็นวุฒิสมาชิก
ในทัศนะของวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต คริส คูนส์ (Chris Coons) ที่เปิดเผยในรายการ This Week ของสถานีโทรทัศน์ ABC ในประเด็นดังกล่าวว่า “เนื่องจากเรื่องที่กำลังจัดการอยู่นั้นมีความสำคัญกว่า และบางครั้งเป็นเอกสารชั้นความลับสูงกว่า ปริมาณเอกสารจึงมีมากกว่า ดังนั้นผมคิดว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น ผมไม่คิดว่านี่จะเป็นประเด็นที่ทำให้คนอเมริกันต้องนอนไม่หลับทั้งคืนขนาดนั้น”
การสำรวจล่าสุดของ ABC/NEWS Ipsos ที่จัดทำขึ้นก่อนการเปิดเผยการค้นพบเอกสารเพิ่มเติมในการค้นบ้านของปธน.ไบเดนเมื่อสัปดาห์ก่อน ระบุว่า 64% ของชาวอเมริกันรู้สึกว่าประธานาธิบดีไบเดน ทำตัวไม่เหมาะสมในการจัดการเอกสารลับของทางการ ขณะที่ 77% ของชาวอเมริกันในการสำรวจ มองว่า การที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จัดการกับเอกสารลับที่เก็บไว้ที่บ้านพักของเขาในรัฐฟลอริดา หลังพ้นจากการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เป็นประเด็นที่น่ากังวลมากกว่า
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้แต่งตั้งปรึกษาพิเศษทางกฎหมาย ให้ทำหน้าที่สอบสวนกรณีการจัดเก็บเอกสารลับของไบเดนว่า เป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ เช่นเดียวกับที่กำลังมีการตรวจสอบกรณีพบเอกสารลับที่บ้านพักของทรัมป์
SEE ALSO: เอฟบีไอค้นบ้านไบเดนที่เดลาแวร์ พบเอกสารลับของทางการเพิ่มหลายชุดหนึ่งวันก่อนการตรวจค้นของทางเอฟบีไอเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไบเดนยืนยันว่า ให้ความร่วมมือกับทางการอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้ และคิดว่าคงไม่พบอะไรที่นั่น และปฏิบัติตามคำแนะนำของทนายทั้งหมดแล้ว
ด้านส.ส.ไมเคิล เเม็คคัล (Michael McCaul) กล่าวกับสื่อ ABC ถึงผลกระทบทางการเมืองว่า อาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน
ส.ส. เเม็คคัล จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเพิ่งได้รับเเต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศ กล่าวว่า “คดีฉาววอเตอร์เกตที่เริ่มต้นจากการปล้นเล็ก ๆ เท่านั้น มันได้นำไปสู่การลาออกจากตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดังนั้น ผมไม่ทราบว่า มีอะไรอยู่ที่นั่นจนกว่าเราจะได้เห็นเอกสารเหล่านั้น ถ้าหากพบว่ามีเอกสารด้านความมั่นคงที่เกี่ยวเนื่องกับศัตรูที่มาจากต่างชาติ”
สำหรับเหตุผลว่า ทำไมประธานาธิบดีคนปัจจุบันและประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ถือครองเอกสารลับของทางการสหรัฐฯ ไว้ แทนที่จะอยู่ในมือของหอจดหมายเหตุของสหรัฐฯ หรือ US National Archives ยังคงเป็นประเด็นคำถามสำหรับอัยการอิสระที่จะค้นหาความจริง
วุฒิสมาชิกโจ แมนชิน (Joe Manchin)จากพรรคเดโมแครต เปิดเผยกับรายการ Meet the Press ของสถานีโทรทัศน์ NBC ว่า “คุณมีจุดประสงค์ที่จะมุ่งเป้าทำร้ายใครหรือเปล่า? คุณตั้งใจจะทำสิ่งที่ไร้ความรับผิดชอบหรือเปล่า? ผมไม่คิดเช่นนั้นและหวังว่า (ปธน.) ทั้งสองจะไม่ได้มีเป้าหมายเช่นนั้น แต่ผลปรากฏว่าพวกเขาทั้งคู่ขาดความรับผิดชอบอย่างแน่นอน”
ส.ว.แมนชิน เน้นย้ำด้วยว่า ชาวอเมริกันต้องการเห็นการแสดงความรับผิดชอบในเรื่องนี้ และควรมีการถ่วงดุลอำนาจที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ด้วยเช่นกัน
- ที่มา: วีโอเอ