สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ศาลฟิลิปปินส์ยกฟ้องคดีหมิ่นประมาททที่นางมาเรีย เรสซา ผู้สื่อข่าวเชื้อสายฟิลิปปินส์-อเมริกัน และประธานบริหารสำนักข่าวแรพเพลอร์ (Rappler) ตกเป็นจำเลย ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายคดีที่เธอเผชิญ โดยนางเรสซากล่าว่า เธอตกเป็นเป้าโจมตีเนื่องจากการรายงานข่าวของสำนักข่าวแรพเพลอร์เกี่ยวกับประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต
การดำเนินคดีต่อนางเรสซา ซึ่งได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปีโดยนิตยสารไทม์เมื่อปีค.ศ. 2018 จากการต่อสู้การคุกคามต่อส้ื่อ ทำให้นานาชาติกังวลถึงการคุกคามผู้สื่อข่าวในฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศที่ครั้งหนึ่งเคยมีเสรีภาพสื่อในระดับแนวหน้าของเอเชีย
เมื่อเดือนตุลาคม อาจารย์มหาวิทยาลัยรายหนึ่งยื่นฟ้องคดีหมิ่นประมาททางไซเบอร์ต่อนางเรสซาและผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวแรพเพลอร์คนหนึ่ง โดยคดีดังกล่าวเกี่ยวกับรายงานข่าวที่กล่าวหาว่า อาจารย์คนดังกล่าวให้เกรดนักศึกษาดีขึ้นโดยแลกกับเงิน ซึ่งอาจารย์ผู้นี้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
คดีอื่นๆ ที่นางเรสซาเผชิญอยู่ มีทั้งคดีภาษีและคดีละเมิดกฎหมายการถือครองสื่อของต่างชาติ
เมื่อวันพฤหัสบดี ธีโอดอร์ เท ทนายของนางเรสซา ระบุว่า ศาลยกฟ้องคดีดังกล่าวในสัปดาห์นี้ หลังอาจารย์ผู้ยื่นฟ้องระบุว่า เขาไม่สนใจเอาเรื่องทางกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเป็นคดีหมิ่นประมาททางไซเบอร์คดีที่สองต่อนางเรสซาที่ถูกศาลยกฟ้องหลังผู้ยื่นฟ้องขอถอนตัวออกไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว นางเรสซาถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีหมื่นประมาททางไซเบอร์ ที่ยื่นฟ้องโดยวิลเฟรโด เคง นักธุรกิจ โดยคดีนี้เกี่ยวกับบทความเมื่อปีค.ศ. 2012 ที่รายงานความเกี่ยวพันของนักธุรกิจกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย นางเรสซาต้องโทษจำคุกสูงสุดหกปีแต่เธอยื่นขออุทธรณ์การดำเนินคดี
นางเรสซาระบุในแถลงการณ์ว่า การยกฟ้องครั้งนี้ทำให้เธอโล่งใจได้ชั่วคราว แต่การคุกคามข่มขู่เธอและสำนักข่าวแรพเพลอร์ยังคงดำเนินต่อไป และคดีเหล่านี้ต่างย้ำเตือนให้เห็นถึงความสำคัญของสื่อเสรี
ทางด้านนายแฮร์รี โรค โฆษกของผู้นำฟิลิปปินส์ ระบุว่า นายดูเตอร์เตสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออก แม้ว่าตัวของประธานาธิบดีเองจะกล่าวหาสำนักข่าวแรพเพลอร์ว่าเป็น “สำนักข่าวปลอม” ที่ได้รับการสนับสนุนจากสายลับอเมริกันก็ตาม
(ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์)