ฟิลิปปินส์ ย้ำ การเจรจาสันติกับเมียนมาต้องเชิญ ‘ออง ซาน ซู จี’ เข้าร่วมด้วย

FILE - Myanmar's Aung San Suu Kyi leaves the International Criminal Court after the first of three days of hearings in The Hague, the Netherlands, Dec. 10, 2019.

ฟิลิปปินส์ ย้ำว่า การเจรจาสันติภาพใดๆ กับเมียนมา เพื่อฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยของประเทศนี้ จะต้องเชิญอดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือน ออง ซาน ซู จี มาร่วมหารือด้วย แม้ว่าเธอจะถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาต่างๆ แล้วก็ตาม ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์

เทโอโดโร ลอคซิน รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวในวันอาทิตย์ว่า ออง ซาน ซู จี เป็นผู้ที่ “จำเป็นและขาดไปไม่ได้” ในทุกเวทีเจรจาสันติภาพเมียนมา พร้อมยังประณามคำตัดสินของศาลเมียนมาเมื่อสัปดาห์ก่อนที่สั่งจำคุกอดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนรายนี้ รวมทั้งกล่าวหารัฐบาลทหารเมียนมาว่า ใช้ระบบตุลาการของประเทศเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้ามกับตน

รมต.ลอคซิน กล่าวผ่านแถลงการณ์ด้วยว่า ตนรู้สึกกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับความทุกข์ยากของพลเรือนเมียนมา และเรียกร้องให้ผู้นำกองทัพเมียนมาเข้าร่วมการเจรจาที่เปิดกว้างให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม รวมทั้งเดินหน้าฟื้นฟูกระบวนการเปลี่ยนถ่ายทางประชาธิปไตยด้วย

คำแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์นี้มีออกมาขณะที่ สมาชิกอาเซียนกำลังเดินหน้ากดดันกองทัพเมียนมา ที่ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว ด้วยการไม่เชิญ พลเอก มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหาร เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม เนื่องจากเมียนมาไม่ยึดมั่นที่จะทำตามข้อเสนอสันติภาพของอาเซียน

ขณะเดียวกัน เมียนมา อ้างว่า ความล่าช้าในการฟื้นฟูสันติภาพของตนนั้น มีสาเหตุมาจากฝีมือของ “ผู้ก่อการร้าย” ที่มุ่งทำลายประเทศอยู่

ทั้งนี้ รมต.ลอคซิน ยืนยันว่า การเจรจาสันติภาพนั้นจะไร้ซึ่งความหมาย หากปราศจาก ออง ซาน ซู จี แม้ว่า ตัวเธอจะถูกสั่งลงโทษจำคุกแล้วเป็นเวลาอย่างน้อย 6 ปี และยังมีคดีที่รอศาลตัดสินอีกหลายสิบคดี โดยระบุว่า “ออง ซาน ซู จี ต้องปรากฏตัวร่วมเจรจา แม้ว่า จะถูกตัดสินลงโทษแล้วตาม และกองทัพเมียนมาไม่ต้องกลัวสิ่งใดทั้งสิ้น ทั้งยังจะมีโอกาสได้รับผลประโยชน์ จากระบอบประชาธิปไตยที่ตนนำพามาสู่เมียนมาด้วย”

(ที่มา: สำนักข่าว รอยเตอร์)