เกิดเหตุยิงกราดสองครั้งในวันเดียวกันที่นครฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย และเมืองชัตตานูกา รัฐเทนเนสซี สหรัฐฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 6 ราย บาดเจ็บมากกว่า 25 ราย ถือเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงจากอาวุธปืนครั้งล่าสุดในอเมริกาในปีนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่า เกิดเหตุยิงกันที่ย่านเซาธ์สตรีท นครฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเต็มไปด้วยผับบาร์ เมื่อช่วงเที่ยงคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นชาย 2 คนและหญิง 1 คน
ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นผู้คนจำนวนมากวิ่งแตกตื่นบนถนนดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าเกิดขึ้นหลังจากที่มีการยิงกัน
ตำรวจฟิลาเดลเฟียระบุว่า มีผู้ก่อเหตุหลายคนที่ยิงใส่ฝูงชน ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 12 คน โดยเชื่อว่าเกิดจากความขัดแย้งระหว่างสองกลุ่ม และมีอาวุธปืนถูกใช้ในเหตุการณ์นี้ 5 กระบอก แต่ยังไม่มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด
ส่วนที่เมืองชัตตานูกา รัฐเทนเนสซี มีรายงานเหตุยิงกราดใกล้บาร์แห่งหนึ่งเมื่อคืนวันเสาร์เช่นกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 14 คน โดย 2 คนเสียชีวิตจากอาวุธปืน และอีกหนึ่งคนเสียชีวิตจากการถูกรถชนขณะวิ่งหนีออกจากที่เกิดเหตุ ขณะที่ยังมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีกหลายคน
เหตุรุนแรงจากอาวุธปืนล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากเพิ่งเกิดเหตุการณ์ยิงกราดที่โรงเรียนประถมศึกษาในเมืองยูวัลดี รัฐเท็กซัส และที่ร้านซูเปอร์มาร์เก็ต เมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งทำให้การถกเถียงเรื่องกฎหมายอาวุธปืนในอเมริกาถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง
เฉพาะในปีนี้ เกิดเหตุยิงกราดในสหรัฐฯ แล้วอย่างน้อย 240 ครั้ง อ้างอิงจากข้อมูลของกลุ่ม Gun Violence Archive โดยคำนิยามของ "เหตุยิงกราด" คือมีผู้ถูกยิงอย่างน้อย 4 คนไม่รวมตัวผู้ก่อเหตุ
เมื่อวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรียกร้องให้รัฐสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายห้ามซื้อขายอาวุธปืนร้ายแรง เพิ่มการตรวจสอบประวัติผู้ซื้อปืน รวมทั้งเพิ่มมาตรการควบคุมการซื้อขายอาวุธปืนให้เข็มงวดยิ่งขึ้น
- ที่มา: รอยเตอร์