สหรัฐฯ ประกาศ จะตอบโต้กลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านให้การสนับสนุนในทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางอย่างเข้มข้นขึ้น หลังการโจมตีด้วยโดรนในจอร์แดนสังหารทหารอเมริกันสามรายและบาดเจ็บอีก 40 ราย
ในวันพฤหัสบดี ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเป็นครั้งแรกหลังเข้ารับการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากเมื่อช่วงขึ้นปีใหม่ โดยเรียกการโจมตีที่เรือนนอนของทหารสหรัฐฯ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจอร์แดนว่า “เลวร้ายมหันต์” และจะไม่ยอมทนต่อการกระทำดังกล่าว
เมื่อสื่อถามว่า เหตุใดจึงเพิ่งมาทวีการตอบโต้ ทั้ง ๆ ที่สหรัฐฯ ก็ถูกโจมตีในตะวันออกกลางมามากกว่า 165 ครั้งแล้วนับตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ออสตินตอบว่า ถึงเวลาแล้วที่จะทำลายแสนยานุภาพของผู้โจมตีให้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมาด้วยหลายแนวทาง ซึ่งอาจรวมถึงการโจมตีทางทหารหลายครั้ง
ออสตินยังตอบโต้แถลงการณ์จากกลุ่มคาเทบ เฮซบอลลาห์ ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธในอิรักที่อิหร่านให้การสนับสนุน ที่ระบุว่าจะหยุดพักการโจมตีสหรัฐฯ ก่อน โดยออสตินกล่าวว่า ท่าทีเช่นนั้นเหมือนจะสายเกินไปหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจอร์แดน
รมว.กลาโหมยังกล่าวด้วยว่า “พวกเราจะนำตัวคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้มารับผิดชอบ”
สำนักข่าว CBS รายงานในวันพฤหัสบดีว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้อนุมัติแผนสำหรับการโจมตีที่กินเวลาหลายวันต่อเป้าหมายที่รวมถึง “กำลังพลและสิ่งปลูกสร้างของอิหร่าน” ทั้งในพื้นที่อิรักและซีเรีย
หากไม่นับการโจมตีเมื่อ 4 มกราคมในกรุงแบกแดด ที่สังหารผู้นำกองกำลังฮารากัต-อัล-นูจาบา ที่อิหร่านหนุนหลังอยู่ การโจมตีของสหรัฐฯ ที่ผ่านมานั้นมุ่งเป้าไปที่สถานที่และคลังโกดังมากกว่าการโจมตีตัวกำลังพล
แม้มีเสียงวิจารณ์ว่าการออกมาประกาศของรัฐบาลวอชิงตัน จะเป็นการส่งสัญญาณให้กลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านให้การสนับสนุน ซึ่งหลายกลุ่มก็เคยโจมตีสหรัฐฯ มาแล้ว มีเวลาได้เตรียมตัว แต่ออสตินระบุว่าจะไม่คาดการณ์อะไรในประเด็นนี้ และ “พวกเราจะทำสิ่งที่จำเป็นเพื่อปกป้องกองทัพและผลประโยชน์ของพวกเรา”
ในประเด็นที่เรือสินค้าในทะเลแดงถูกกลุ่มฮูตีในเยเมนเข้าโจมตีอย่างต่อเนื่อง ออสตินกล่าวว่า เป้าหมายของสหรัฐฯ คือการเดินหน้าทำลายแสนยานุภาพของกลุ่มฮูตี และเรียกร้องไปยังอิหร่านให้ “เลิก หรืองดจัดส่งอาวุธสงครามที่มีความก้าวหน้า ที่ถูกนำไปใช้โจมตีเรือ”
นับตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน กลุ่มฮูตีมีปฏิบัติการโจมตีเรือมาแล้วเกือบ 40 ครั้ง ซึ่งรวมถึงการจู่โจมต่อเนื่องในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
กองบัญชาการภูมิภาคเอเชียกลางและตะวันออกกลาง (CENTCOM) ระบุว่า ปฏิบัติการในวันพฤหัสบดีบริเวณอ่าวเอเดนของเยเมน เริ่มต้นจากการโจมตีด้วยโดรน ตามมาด้วยโดรนติดระเบิด และขีปนาวุธสำหรับยิงเรือ โดยแถลงการณ์จาก CENTCOM ระบุว่าพวกเขาทำลายโดรนได้ และขีปนาวุธก็ยิงไม่ถูกเรือเป้าหมาย
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ใส่ชื่อกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน กลับเข้าสู่บัญชีรายชื่อกลุ่มก่อการร้ายอีกครั้ง
- ที่มา: วีโอเอ