“แนนซี พีโลซี” รับตำแหน่งประธานสภาผู้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ท่ามกลางความตึงเครียดกับ “ทรัมป์”

House Speaker Nancy Pelosi of California, surrounded by her grandchildren and other children, pounds the gavel at the Capitol in Washington, Thursday, Jan. 3, 2019. (AP Photo/Carolyn Kaster)

Your browser doesn’t support HTML5

Pelosi

นางแนนซี พีโลซี (Nancy Pelosi) เข้าพิธีปฏิญาณตนรับตำแหน่งประธานสภาผู้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี และเรียกได้ว่า ณ นาทีนี้ เธอคือผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดเวทีการเมืองในสหรัฐฯ ท่ามกลางความแตกแยกระหว่างพรรคเดโมแครตที่เธอสังกัดกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ส.ส. แนนซี พีโลซี จากรัฐแคลิฟอร์เนีย กลายเป็นบุคคลรายแรกในรอบ 50 ปีที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งที่สอง ความสำเร็จนี้เกิดจากการที่พรรคเดโมแครตสามารถกลับมาการคุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

นอกจากนี้เธอยังคงเป็นสตรีคนแรกและคนเดียวในประวัติศาสตร์อเมริกันที่เป็นประธานสภาฯ ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ

โดยตำแหน่ง เธออยู่ในลำดับสามของการรับหน้าที่ประธานาธิบดี หากเกิดเหตุที่ทำให้ประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ผู้นำประเทศได้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความยินดีกับนางพีโลซี แม้ก่อนหน้านี้ ทั้งสองเผชิญหน้ากันเรื่องงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯและเม็กซิโก จนทำให้หน่วยงานรัฐบาลบางส่วนต้องยุติการทำงานชั่วคราวต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม เพราะไม่มีกฎหมายงบประมาณมารองรับ

โดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความหวังในวันพฤหัสบดีว่าจะทำงานร่วมงานกับ แนนซี พีโลซี ในงานด้านต่างๆ ได้ เช่น โครงการสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน

ผู้นำสหรัฐฯ มีถ้อยแถลงดังกล่าวต่อนักข่าว โดยปรากฏตัวในห้องแถลงข่าวของทำเนียบขาว อย่างที่ไม่มีการบอกล่วงหน้า และยังคงย้ำถึงความสำคัญของการสร้างกำแพงกั้นสหรัฐฯ และเม็กซิโก ว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาคนเข้าเมืองผิดกฎหมายได้

นอกจากเรื่องร่างกฎหมายงบประมาณแผ่นดินแล้ว อีกบทบาทหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรคือการตรวจสอบรัฐบาล โดยมี ส.ส. พรรคเดโมแครตจำนวนไม่น้อยต้องการเดินเรื่องถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์

ในเรื่องนี้ แนนซี พีโลซีได้แสดงทัศนะอย่างระมัดระวัง

เธอให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ NBC ในวันพฤหัสบดีว่า เราไม่ควรดำเนินการถอดถอนโดยใช้เหตุผลทางการเมือง และเราไม่ควรหลีกเลี่ยงการถอดถอนด้วยเหตุผลทางการเมืองเช่นกัน

ผู้สันทัดกรณี เดบบี วอล์ช (Debbie Walsh) ผู้อำนวยการศูนย์ Center for American Women and Politics กล่าวว่า แนนซี พีโลซี กำลังหาจุดสมดุลในบทบาทของเธออย่างผู้มีประสบการณ์ทางการเมืองสูง

หากมองย้อนกลับไป ส.ส. พีโลซี เติบโตในครอบครัวนักการเมือง บิดาของเธอเป็น ส.ส. และนายกเทศมนตรีนครบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์

ในสุนธรพจน์ที่เธอกล่าวรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แนนซี พีโลซี บอกว่า เธอภูมิใจที่เป็นสตรีที่รับหน้าที่นี้ในปีที่ครบรอบหนึ่งศตวรรษของการมีออกเสียงโดยผู้หญิงอเมริกัน

นอกจากนั้น สภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันยังมีจำนวน ส.ส. หญิงมากเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ประเด็นสิทธิสตรีกำลังเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจอย่างยิ่งในสังคม

(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของ Katherine Gypson)