'iPhone vs Android' สมาร์ทโฟนไหนดีกว่าสำหรับฟังก์ชั่นควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตของลูกๆ?

ปัญหาปวดหัวอย่างหนึ่งของผู้ปกครอง คือการควบคุมการเข้าอินเทอร์เน็ตของลูกๆ โดยเฉพาะวัยรุ่น

Your browser doesn’t support HTML5

Parental Control

Brian Chen ผู้เขียนคอลัมน์ Tech Fix ลงใน New York Times เปรียบเทียบระบบควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตของลูกๆ หรือ "Parental Control" ในโทรศัพท์สมาร์ทโฟน 2 ระบบ คือ iPhone และ Android

ทั้งในด้านการป้องกันไม่ให้เด็กๆเข้าสู่เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม การป้องกันไม่ให้เด็กๆลบแอพฯ ใสำคัญในโทรศัพท์ผู้ปกครอง การตรวจสอบแอพฯลวง ซึ่งวัยรุ่นใช้ซ่อนข้อความที่เกี่ยวกับเรื่องเพศหรือ sexting ไว้ในรูปของแอพฯต่างๆ เช่น แอพฯเครื่องคิดเลข ตลอดจนการป้องกันการซื้อสินค้าออนไลน์

โทรศัพท์ iPhone

จากการเปรียบเทียบพบว่า iPone ใช้งานง่ายกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่า ในการควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตของลูกๆ ด้วยฟังก์ชั่น "Ask to Buy" หรือ "ถามก่อนซื้อ" ซึ่งหมายความว่าทุกครั้งทีั่ลูกๆ พยายามจะดาวน์โหลดแอพฯ ที่เสียเงิน หรือจะจ่ายเงินในแอพฯใดๆ ก็ตามโดยใช้บัตรเครดิต iPhone จะส่งคำเตือนไปยังโทรศัพท์ของผู้ปกครอง และผู้ปกครองมีสิทธิ์จะยอมรับหรือปฏิเสธคำสั่งซื้อนั้นได้

อีกฟังก์ชั่นหนึ่งเรียกว่า Restrictions ซึ่งอนุญาตให้พ่อแม่กำหนดได้ว่า จะยอมให้ Web Browser ดาวน์โหลดเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมได้หรือไม่? มากน้อยแค่ไหน? โดยสามารถกำหนดการควบคุมได้ว่า เนื้อหาที่จะแสดงนั้นต้องเหมาะสมกับเด็กอายุเท่าไร

โทรศัพท์ Android

สำหรับมือถือ Android คอลัมนิสต์ผู้นี้บอกว่า สามารถตั้งค่าควบคุมการเข้าอินเทอร์เน็ตของลูกๆได้เช่นกัน เช่นระบบ Safesearch ของ Google แต่ค่อนข้างยุ่งยากกว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Android เป็นระบบเปิดกว่า iPhone ทำให้มีทางเลือกด้านแอพฯ มากมายหลากหลายกว่า รวมทั้ง Web Browser ทำให้ยากที่จะควบคุมได้ทุกอัน

NY Times แนะนำแอพฯบางตัวที่สามารถนำมาใช้แบบ Parental Control ได้แก่ Applock ซึ่งใช้ล็อคแอพฯน่าสงสัย ด้วยการใช้รหัสพิเศษ และ PhoneSheriff ซึ่งใช้ตรวจสอบกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมได้