ปาเลสไตน์เผย อิสราเอลบุกโจมตีเวสต์แบงก์ สังหาร 7 ศพ

ปาเลสไตน์เผยว่า กองทัพอิสราเอลบุกโจมตีเขตเวสต์แบงก์ในวันอังคาร สังหารประชาชน 7 คน ในขณะที่ยังต่อสู้กับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซ่าอย่างต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของปาเลสไตน์ระบุว่า ทหารอิสราเอลได้บุกเข้าไปในเมืองเจนินในเขตเวสต์แบงก์ โดยคาดว่าหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลเป็นหมอผ่าตัดในเมืองดังกล่าว

ทางกองทัพอิสราเอลยืนยันว่า ได้ใช้ปฏิบัติการบุกโจมตีในเวสต์แบงก์ซึ่งมุ่งเป้าไปที่นักรบของกลุ่มติดอาวุธ และสามารถสังหารนักรบเหล่านั้นได้หลายคน

ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่า กำลังทหารทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศยังคงต่อสู้กับนักรบกลุ่มฮามาสในเมืองราฟาห์ทางใต้ของกาซ่าอย่างต่อเนื่อง พร้อมไปกับการทำสงครามทั่วภาคเหนือและภาคกลางของกาซ่าด้วย

ปาเลสไตน์เผย อิสราเอลบุกโจมตีเวสต์แบงค์

รมว.กลาโหมอิสราเอลตำหนิหมายจับไอซีซี

รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล โยอาฟ กัลเเลนต์ มีแถลงการณ์ในวันอังคาร ตำหนิข้อเรียกร้องของหัวหน้าอัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ International Criminal Court (ICC) ที่ต้องการให้ออกหมายจับตัวเขาและนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู สืบเนื่องจากการก่อสงครามในกาซ่า

รัฐมนตรีกัลแลนต์ ระบุว่า การเรียกร้องให้ออกหมายจับดังกล่าวถือเป็น "ความเสื่อมเสีย" ต่อตนเองและนายกฯ อิสราเอล และว่า "ความพยายามของอัยการคาริม คาน ที่เพิกเฉยต่อสิทธิของรัฐอิสราเอลในการป้องกันตนเองและปลดปล่อยตัวประกันจะต้องถูกปฏิเสธทันที"

อัยการศาลอาญาโลกหวังให้ออกหมายจับ 'เนทันยาฮู' และผู้นำฮามาส 3 ราย

เมื่อวันจันทร์ คาริม คาน หัวหน้าอัยการแห่งศาล ICC กล่าวในแถลงการณ์ว่า คณะทำงานของเขาเชื่อว่า เนทันยาฮูและกัลเเลนต์ "มีส่วนรับผิดชอบทางอาญา" ต่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จากการทำให้พลเรือนอยู่ในสภาพขาดเเคลนอาหาร ซึ่งเป็นวิธีการทำสงครามและจงใจพุ่งเป้าการโจมตีไปสู่พลเรือน

นอกจากผู้นำทั้งสองคนของอิสราเอลแล้ว ศาล ICC ยังต้องการให้ออกหมายจับผู้นำกลุ่มฮามาส ยาห์ยา ซินวาร์ รวมทั้งผู้นำทางทหารของกลุ่มฮามาส โมฮัมเมด ดิอับ อิบราฮิม อัลมาสรี และผู้นำฝ่ายการเมือง อิสเมล ฮานิเยห์ โดยบุคคลเหล่านี้ถูกระบุว่า มีส่วนรับผิดชอบต่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติเช่นกัน

คาริม คานระบุว่า ข้อกล่าวหาต่อแกนนำฮามาสเหล่านี้ รวมถึงการสังหารผู้อื่น จับตัวประกัน ข่มขืน ทรมาน และความรุนเเรงอื่น ๆ

ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ต่างประณามการตัดสินใจของอัยการ ICC ที่ทำให้กรณีการโจมตีสายฟ้าแลบของฮามาสเข้าใส่ทางใต้ของอิสราเอลและการลักพาตัวผู้คนนับร้อยไปเป็นตัวประกันเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมของปีที่แล้ว มีความเลวร้ายเท่ากับการดำเนินปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในกาซ่า และอาจสร้างความเสี่ยงต่อความพยายามจัดทำข้อตกลงหยุดยิงในกาซ่าได้

ผู้ลี้ภัยในกาซ่ารอรับความช่วยเหลือและน้ำสะอาดที่ค่ายเดียร์ อัล-บาลาห์ เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2024

ด้านกลุ่มฮามาสซึ่งสหรัฐฯ อังกฤษและหลายประเทศประกาศให้มีสถานะเป็นองค์การก่อการร้าย ประณามการเดินหน้าขอหมายจับผู้นำของตนโดย ICC เช่นกัน พร้อมกล่าวหา คาริม คาน อัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศว่า พยายาม “ทำให้เหยื่อดูเป็นเหมือนเพชฌฆาต” และระบุในแถลงการณ์ว่า กลุ่มของตนมีสิทธิ์ที่จะต่อต้านการยึดครองของอิสราเอล

สงครามอิสราเอล-ฮามาสครั้งนี้ เริ่มต้นจากการที่กลุ่มฮามาสโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวเข้าใส่อิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีก่อน และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คน รวมทั้งการจับตัวประกัน 253 คนไป ตามการประเมินของเจ้าหน้าที่อิสราเอล และการโจมตีโต้กลับของอิสราเอลในกาซ่าก็ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์กว่า 35,500 คนเสียชีวิต อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขกาซ่า โดยตัวเลขนี้รวมความถึงทั้งพลเรือนและนักรบฮามาส ขณะที่ มีการระบุว่า ส่วนใหญ่เป็นสตรีและเด็ก

อิสราเอลกล่าวว่า ฝ่ายตนได้ปลิดชีพนักรบในปาเลสไตน์ไปแล้ววกว่า14,000 และสังหารพลเรือนไปประมาณ 16,000 คน

• ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์