"นาโอมิ โอซากะ" สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ยูเอสโอเพ่น หลังเซเรน่าตบะแตกใส่ผู้ตัดสิน!

Naomi Osaka of Japan holds the U.S. Open trophy after beating Serena Williams of the USA in the women’s final of the 2018 U.S. Open tennis tournament at the USTA Billie Jean King National Tennis Center in New York, Sept, 8, 2018. (R. Deutsch/USA Today)

นาโอมิ โอซากะ (Naomi Osaka) นักเทนนิสหญิงจากญี่ปุ่นมือวางอันดับ 20 ของโลก สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นนักเทนนิสญี่ปุ่นคนแรกที่คว้าแชมป์เทนนิสแกรนด์สแลม ในรายการยูเอสโอเพ่น ที่นิวยอร์ก ในวันเสาร์

นาโอมิ เอาชนะ เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ (Serena Williams) จากสหรัฐฯ สองเซ็ทรวด 6-2 6-4 ในการแข่งขันที่เต็มไปด้วยเสียงวิจารณ์และเหตุการณ์ที่น่ากังขา หลังจากที่เซเรน่าไม่สามารถควบคุมอารมณ์เมื่อเธอถูกผู้ตัดสินสั่งปรับแต้มและหนึ่งเกม จากการทำผิดกฎระหว่างการแข่งขัน

ระหว่างการแข่งขันเซ็ทที่สอง ของรอบชิงชนะเลิศหญิงเดี่ยว ผู้ตัดสิน คาร์ลอส รามอส (Carlos Ramos)ได้เตือนเซเรน่าหลังจากเห็นว่าโค้ชชาวอเมริกันของเซเรน่าพยายามส่งสัญญาณบางอย่างให้กับเธอ แต่เซเรน่าเถียงกลับว่าเธอ "ไม่เคยโกงการแข่งขัน และจะยอมแพ้เสียดีกว่าหากจะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนโกง"

จากนั้นเมื่อถูกเบรคเกมเสิร์ฟ เซเรน่าโกรธจัดและปาไม้เทนนิสลงพื้นจนหัก ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎครั้งที่สอง เธอจึงถูกปรับแต้ม ซึ่งยิ่งสร้างความหัวเสียอย่างมากให้กับเจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 23 รายการผู้นี้

Serena Williams of the United States yells at chair umpire Carlos Ramos in the women's final against Naomi Osaka of Japan at the 2018 U.S. Open tennis tournament in New York, Sept. 8, 2018. (D. Parhizkaran/USA Today)

เซเรน่ายังคงโต้เถียงกับผู้ตัดสินและพยายามให้เขากล่าวขอโทษต่อเธอจากการตัดสินว่าเธอแอบดูสัญญาณจากโค้ช จนผู้ตัดสินรามอสได้สั่งปรับเธอหนึ่งเกมหลังจากที่เธอเรียกเขาว่า "หัวขโมย" ที่ขโมยคะแนนไปจากเธอ ทำให้เธอต้องเรียกคณะกรรมการออกมา และหลั่งน้ำตาเสียใจต่อการตัดสินของผู้ตัดสินรามอส

แม้เซเรน่าจะยังคงเล่นต่อจนจบ แต่ในที่สุดโอซากะก็สามารถเอาชนะไปได้ และคว้าแชมป์แกรนด์สแลมสมัยแรกของตนได้สำเร็จ ก่อนที่เซเรน่าจะเดินเข้ามาสวมกอดกับโอซากะ แต่ไม่ยอมจับมือผู้ตัดสินและยังพูดให้เขากล่าวคำขอโทษกับเธอ ท่ามกลางเสียงโห่ของผู้ชมที่มีต่อผู้ตัดสิน จนกระทั่งเขาเดินออกจากสนามไป

ถือเป็นหนึ่งในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศแกรนด์สแลมที่เชื่อว่าจะถูกพูดถึงไปอีกนาน