ชาวอเมริกันมีแนวโน้มเสียชีวิตจากการใช้ยาโอพิออยด์มากกว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์

FILE - The drug Naloxone sits on a table during a free Opioid Overdose Prevention Training class provided by Lourdes Hospital in Binghamton, New York, U.S.

นับเป็นครั้งแรกที่อัตราการเสียชีวิตของชาวอเมริกันจากการใช้ยาโอพิออยด์ (opioid) ซึ่งมีส่วนผสมของฝิ่นเกินขนาดโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ สูงกว่าอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์

ผลการวิเคราะห์ของสภาความปลอดภัยแห่งชาติซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรพบว่า ความเป็นไปได้ของอัตราการเสียชีวิตจากการใช้ยาโอพิออยด์เกินขนาดโดยที่ไม่ได้ตั้งใจนั้นอยู่ที่ 1 ต่อ 96 และโอกาสที่จะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์อยูที่ 1 ต่อ 103

วิกฤตการณ์เรื่องการใช้ยาโอพิออยด์ในสหรัฐสร้างความวิตกกังวลให้แก่สภาความปลอดภัย และวิกฤตินั้นยิ่งเลวร้ายลงเพราะมีสารเสพติด fentanyl ที่ผิดกฎหมายไหลบ่าเข้ามาในประเทศ

บทวิเคราะห์นี้ใช้ข้อมูลอัตราการเสียชีวิตในปีพ.ศ. 2560 จากศูนย์สถิติสุขภาพแห่งชาติซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ

ฝ่ายนิติบัญญัติของทั้งรัฐบาลกลางสหรัฐและรัฐบาลของรัฐต่างๆ พยายามเร่งหาทางแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาโอพิออยด์ ตัวอย่างของผลกระทบจากการใช้ยานี้ครั้งล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองชิโก รัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตหนึ่งคน และถูกนำส่งโรงพยาบาลอีกมากกว่า 12 คนหลังจากการใช้ยาเสพติดเกินขนาดที่บ้าน ซึ่งในกรณีนี้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเกิดจากการใช้สารเสพติด fentanyl

รายงานจากสถาบันยาเสพติดแห่งชาติระบุว่ามีผู้เสียชีวิตกว่า 49,000 คนเนื่องจากการใช้ยาโอพิออยด์เกินขนาด ในปีพ.ศ. 2560 และเมื่อปลายปีที่แล้ววุฒิสภาออกกฎหมายเพื่อต่อสู้กับวิกฤตการณ์นี้

Francis Collins ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพแห่งชาติให้สัมภาษณ์แก่ USA TODAY เมื่อเดือนตุลาคมว่า หน่วยงานของตนจะมอบทุนสนับสนุนวิธีการรักษาในระยะยาวสำหรับผู้ติดยาเสพติดโอพิออยด์ และจะพัฒนาวิธีบำบัดรักษาให้ผู้คนสามารถรับมือกับความเจ็บปวดได้ โดยที่ไม่ต้องใช้ยาที่มีส่วนผสมของสารเสพติด

การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมการแพทย์อเมริกันเมื่อเดือนธันวาคมระบุว่า เด็กและวัยรุ่นเกือบ 9,000 คนเสียชีวิตจากพิษของยาโอพิออยด์ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2542 จนถึงพ.ศ. 2559