กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ OPEC บรรลุข้อตกลงในการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน หลังการประชุมหารือในระดับรัฐมนตรี ที่กรุงเวียนนาในวันศุกร์ ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งเกือบ 2 ดอลลาร์ หลังเป้าหมายเพิ่มการผลิตต่ำกว่าคาด
แถลงการณ์ของ OPEC ระบุว่า 14 ชาติสมาชิก และพันธมิตร เห็นชอบที่จะเพิ่มกำลังการผลิต เริ่มต้น 1 กรกฎาคมนี้
ก่อนการประชุมจะเสร็จสิ้น ราคาน้ำมันโลกดีดตัวเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 2 โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้น 1.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ไปอยู่ที่ 74.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากไม่มีความชัดเจนถึงปริมาณการผลิตที่จะเพิ่มขึ้น ก่อนจะปิดตลาดที่ราว 74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ หลายวันก่อนการประชุม มีการคาดการณ์ว่ากลุ่ม OPEC จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่หลังการหารือเกิดขึ้น บรรดานักวิเคราะห์กลับประเมินว่ากลุ่ม OPEC และพันธมิตรจะเพิ่มการผลิตราว 600,000 บาร์เรลต่อวันเท่านั้น ตามรายงานของวอลล์ สตรีท เจอร์นัล
นี่ถือเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016 การลดกำลังการผลิตเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทำให้ราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำในช่วงนั้น ปรับขึ้นมาจากราว 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขึ้นมาเป็น 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในขณะนี้
14 ชาติสมาชิกกลุ่ม OPEC เห็นตรงกันว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ อาจให้ผลดีแค่ในระยะสั้น แต่จะกลายเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้พลังงานทดแทน ซึ่งกระทบกับความต้องการน้ำมันดิบในอนาคตได้