ภัตตาคารชั้นนำของนิวยอร์กเตรียมเปิดกิจการหลังโควิด ด้วย 'เมนูไร้เนื้อสัตว์'

Restaurant is Taking Meat Off Menu

ภัตตาคารอันดับต้นๆของโลก Eleven Madison Park ที่มหานครนิวยอร์ก เป็นจุดหมายที่นักชิมอาหารจากเชฟฝีมือเลิศต่างหมายปองจะมาเยือน และยอมสู้ราคาที่สูงระดับ 30,000 บาทสำหรับลูกค้าสองคนต่อหนึ่งมื้อ

Eleven Madison Park ต้องปิดตัวลงชั่วคราวเนื่องจากการระบาดของโคโรนาไวรัสตั้งแต่ปีที่เเล้ว แต่จะกลับมาเปิดอีกครั้งวันที่ 10 มิถุนายนนี้

การเปิดตัวในเดือนหน้าจะมาพร้อมกับความแปลกใหม่ สมกับการที่ Eleven Madison Park เป็นหนึ่งในภัตตาคารราว 130 แห่งทั่วโลกที่เคยได้รับดาวรับประกันความอร่อย "มิเชลลินสตาร์" มากถึงสามดวง

เชฟ เเดเนียล ฮัมม์ ซึ่งเป็นเจ้าของ Eleven Madison Park กล่าวว่าในการกลับมาครั้งนี้ จะนำเสนออาหารที่ไม่ใช้เนื้อสัตว์เลยเเม้เเต่จานเดียว คือจะไม่นำเนื้อสัตว์ประเภทใดๆ เลย รวมถึงเนื้อปลา มาประกอบอาหาร

และลูกค้าที่ถามหาชีส หรือเนย ที่ภัตตาคารของเขาก็ย่อมจะผิดหวังด้วย อย่างไรก็ตามเเดเนียล ฮัมม์อนุญาตที่เสิร์ฟนมและน้ำผึ้งเคียงข้างกาแฟและชาได้

สำหรับสาเหตุที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง เขากล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา มนุษย์บริโภคเนื้อสัตว์ ในวิถีทางที่ไม่ก่อให้เกิดความยั่งยืน

Chefs Marcus Samuelsson and Daniel Humm (right) are shown in 2015. (Photo by Mark Von Holden/Invision for James Beard Foundation/AP Images)

เนวิน มาร์เทลล์ นักเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับอาหาร ซึ่งอยู่ที่กรุงวอชิงตันกล่าวว่า ที่ผ่านมา ภัตตาคาร Eleven Madison Park มักสร้างความเเปลกใหม่ให้กับวงการเสมอๆ

เขาไม่คิดว่า การนำเสนออาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นเครื่องปรุงจะเป็นความเสี่ยงต่อ Eleven Madison Park เพราะภัตตาคารเเห่งนี้มีชื่อเสียงดึงดูดลูกค้าที่เเข็งเเกร่ง

นักเขียนผู้นี้บอกว่าผู้คนเดินทางมารับประทานอาหารที่ ภัตตาคารของเเดเนียล ฮัมม์ ไม่ใช่เพราะพวกเขาอยากที่ทานเนื้อสัตว์ แต่เป็นเพราะการมาที่ร้าน Eleven Madison Park คือสิ่งที่ลูกค้ามองว่าเป็น "ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต"

ในขณะเดียวกันเพื่อนร่วมวงการเชฟ ไฮดาร์ คารูม แห่งร้าน Chloe ที่กรุงวอชิงตัน กล่าวว่าความนิยมในอาหารที่ใช้พืชผักเป็นส่วนประกอบกำลังเพิ่มขึ้น และภัตตาคาร Chloe ก็ได้เพิ่มอาหารประเภทนี้ในเมนูสำหรับลูกค้าในช่วงที่ผ่านมา

Haidar Karoum's restaurant, Chloe, in Washington, D.C.

สำหรับผู้ที่นิยมทำอาหารเองที่บ้าน เว็บไซต์ Epicurious แหล่งรวมเคล็ดลับเเละสูตรทำอาหารประกาศเมื่อเดือนเมษายนว่า จากนี้ต่อไปจะไม่นำเสนอสูตรอาหารที่ใช้เนื้อวัว

Epicurious เเจ้งว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นความพยายามที่จะสนับสนุนแนวทางการทำอาหารที่ยั่งยืน เพราะหากเปรียบเทียบกับเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ โลกได้รับก๊าซเรือนกระจกจากการเลี้ยงวัวมากที่สุด

ข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันจาก นักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Tulane ที่เมืองนิวออร์ลีนส์ ที่ระบุเมื่อสองปีก่อนในการศึกษาว่า การผลิตอาหารเป็นสาเหตุของก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 25 ของโลก

นักวิจัยบอกด้วยว่าถ้าคนอเมริกันเปลี่ยนมาบริโภคเนื้อไก่เเทนเนื้อวัวหนึ่งมื้อต่อวัน จะสามารถลดมลพิษต่อโลกได้ราวครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

The Michelin guide lists some of the best restaurants in the world. (AP Photo/Christophe Ena)