ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบาม่า กล่าวในการประชุมแถลงข่าวที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ระหว่างร่วมประชุม G-20 ว่าตนไม่เคยสงสัยในความจริงใจของนักกีฬาที่ไม่ยืนตรงระหว่างการร้องเพลงชาติสหรัฐฯ ก่อนการแข่งขันแต่ละครั้ง
แต่ก็เชื่อว่าเป็นเรื่องยากที่บรรดาทหารหรือเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายชาวอเมริกันจะยอมรับในเรื่องนี้
ประเด็นดังกล่าวถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในอเมริกา หลังจากที่ควอเตอร์แบ็คผิวสีของทีม San Francisco 49ers โคลิน แคพเพอร์นิค แสดงการประท้วงความไม่เท่าเทียมทางเชื้อชาติและสีผิวในสังคมอเมริกัน ด้วยการไม่ยืนขึ้นขณะทีเสียงเพลงชาติดังขึ้นก่อนการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลเกมพรี-ซีซั่น ทั้ง 4 เกม
แคพเพอร์นิคให้เหตุผลว่าตนไม่ต้องการแสดงความเคารพต่อธงชาติของประเทศที่ยังมีการเลือกปฏิบัติ และกีดกันคนต่างเชื้อชาติ ต่างสีผิว สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความรุนแรงระหว่างตำรวจกับพลเมืองอเมริกันผิวดำในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ปธน. โอบาม่า กล่าวที่เมืองหางโจวว่า ในประวัติศาสตร์ด้านกีฬาของสหรัฐฯ มีนักกีฬาจำนวนมากที่ใช้สนามกีฬาเป็นเวทีแสดงจุดยืนของตัวเอง และแคพเพอร์นิคก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนเข้าใจถึงความจริงใจของควอเตอร์แบ็คผู้นี้ และแม้สิ่งที่เขาทำจะก่อให้เกิดการถกเถียงมากมายในสังคม แต่นั่นก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางประชาธิปไตย
การประท้วงของแคพเพอร์นิคก่อให้เกิดความไม่พอใจอย่างมากในหมู่แฟนอเมริกันฟุตบอล หลายคนจุดไฟเผาเสื้อทีมที่มีชื่อของเขาด้านหลัง แล้วถ่ายภาพและวีดิโอโพสต์ลงสื่อออนไลน์
แต่ก็มีแฟนจำนวนมากที่สนับสนุนจุดยืนของควอเตอร์แบ็คผู้นี้ โดยเปรียบเทียบเขากับตำนานนักมวยผู้ล่วงลับ มูฮัมหมัด อาลี ที่กล้ายืนหยัดเพื่ออุดมการณ์ของตัวเอง