จำนวนผู้อพยพข้ามพรมแดนจากเม็กซิโกเข้ามายังสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย เพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนพฤษภาคม ตามรายงานของสำนักงานศุลกากรและการป้องกันชายแดนของสหรัฐฯ หรือ CBP ที่เปิดเผยในวันพุธ
รายงานของ CBP ที่เปิดเผยในวันพุธ ระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ 132,887 คนในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 33% จากเดือนเมษายน ส่วนใหญ่มาจาก เอลซัลวาดอร์ กัวเตมาลา และฮอนดูรัส
เจ้าหน้าที่ CBP ระบุว่า จำนวนเด็กเล็กที่เดินทางมาพร้อมครอบครัวเพื่อลอบเข้าสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกันตั้งแต่ต้นปีมานี้ ซึ่งเชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการส่งข่าวกลับไปยังประเทศในแถบอเมริกากลางว่า หากมีเด็กเดินทางมาด้วยจะได้รับการปล่อยตัวเร็วขึ้นเพื่อรอฟังการพิจารณาคดี
สำหรับเหตุผลในการลักลอบเข้าสหรัฐฯ นั้นแตกต่างกันไป ตั้งแต่ปัจจุบันทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ทั้งในประเทศต้นทางและปลายทาง
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเพิ่มภาษีร้อยละ 5 กับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก เริ่มต้น 10 มิถุนายนนี้ และอาจเพิ่มอัตราภาษีขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระดับร้อยละ 25 เพื่อลงโทษที่ทางการเม็กซิโกไม่สามารถใช้มาตรการสกัดกั้นกลุ่มผู้อพยพจากแถบอเมริกากลางได้
เจ้าหน้าที่เม็กซิโกและสหรัฐฯ ออกมาเตือนว่ามาตรการขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก ไม่ช่วยแก้ปัญหาผู้อพยพจากอเมริกากลางเข้ามายังสหรัฐฯ อีกทั้งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของ 2 ชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้