นักเทนนิสมือวางอันดับหนึ่งของโลกชาวเซอร์เบีย โนวัค โยโควิช ซึ่งแพ้คดีในชั้นศาลออสเตรเลียที่อุทธรณ์ขอพำนักต่อในประเทศเพื่อทำการแข่งขันรายการเทนนิสแกรนด์สแลม ออสเตรเลียน โอเพ่น ถูกทางการส่งตัวออกนอกประเทศไปแล้ว หลังรัฐบาลกรุงแคนเบอร์ราสั่งยกเลิกวีซ่าไปก่อนหน้าด้วยเหตุผลด้านสาธารณสุขและความสงบเรียบร้อยของประเทศ
หลังมีรายงานคำตัดสินของศาลออกมา กลุ่มผู้สนับสนุน โยโควิช ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างถ้วนหน้าว่า นักเทนนิสมือวางอันดับหนึ่งของโลกรายนี้ได้รับการปฏิบัติต่ออย่างไม่เป็นธรรมทันทีที่เดินทางถึงนครเมลเบิร์นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่า การส่งตัว โยโควิช ออกไปนอกออสเตรเลียนั้น “ไร้ซึ่งมนุษยธรรม” และ “เป็นการอุกอาจ” อย่างยิ่ง
ก่อนที่ประเด็นทั้งหมดจะปะทุขึ้นและกลายมาเป็นข่าวใหญ่ดังเช่นในปัจจุบัน โยโควิช ได้รับการยกเว้นจากคณะกรรมการอิสระด้านสาธารณสุข 2 คณะที่จัดตั้งโดยรัฐบาลรัฐวิกตอเรียและหน่วยงานผู้ดูแลกีฬาเทนนิส ให้เดินทางมาออสเตรเลียได้ แม้จะไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เลย ขณะที่ เจ้าตัวเพิ่งติดเชื้อโคโรนาไวรัสไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
แต่เมื่อเดินทางถึงออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 5 มกราคม เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินนครเมลเบิร์นสั่งยกเลิกวีซ่าของ โยโควิช ด้วยเหตุผลว่า นักเทนนิสมือหนึ่งของโลกรายนี้ไม่ปฏิบัติตามกฎของประเทศ ก่อนจะถูกส่งไปกักตัวที่โรงแรมซึ่งรัฐบาลจัดไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ต่อมา ผู้พิพากษาอีกรายตัดสินสั่งให้วีซ่าของ โยโควิช มีผลใช้งานได้ดังเดิมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคนเข้าเมืองออสเตรเลีย อเล็กซ์ ฮอว์ก สั่งยกเลิกวีซ่าอีกรอบเมื่อวันศุกร์ และระบุว่า การที่นักเทนนิสมือวางอันดับหนึ่งของโลกไม่ได้รับการฉีดวัคซีนและเข้ามาในออสเตรเลียจะทำให้กระแสการต่อต้านการฉีดวัคซีนรุนแรงขึ้น
SEE ALSO: ยังไม่จบ! รัฐบาลออสซี่สั่งเพิกถอนวีซ่า 'โยโควิช' จ่อส่งตัวกลับอีกรอบ
ขณะที่ ทนายของ โยโควิช แย้งว่า คำอธิบายของรัฐบาลออสเตรเลียนั้นไม่มีเหตุผลและไม่มีตรรกะ ผู้พิพากษารัฐบาลกลางทั้ง 3 คนที่ดูแลคดีนี้ลงมติเป็นเอกฉันท์ในวันอาทิตย์ที่จะปฏิเสธคำอุทธรณ์ของ โยโควิช และยกคำร้องไป
ทั้งนี้ แดเนียล แอนดรูว์ส นายกรัฐมนตรีรัฐวิกตอเรีย เชื่อว่า การแข่งขันรายการออสเตรเลียน โอเพ่น จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการที่ โยโควิช ไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้
ขณะเดียวกัน โยโควิช ซึ่งทำสถิติชนะรายการนี้มาแล้วถึง 9 ครั้ง ระบุในแถลงการณ์ก่อนเดินทางออกจากออสเตรเลียว่า ตน “รู้สึกผิดหวังอย่างสูงสุดต่อคำพิพากษาของศาล” แต่ก็เคารพต่อคำตัดสินนี้และจะ “ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานทางการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องการเดินทางออกจากประเทศของตน”