Your browser doesn’t support HTML5
บรรดาบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกกำลังตั้งหน้าตั้งตาพัฒนาอุปกรณ์ตรวจจับกลิ่นเเบบพกพาเพราะนั่นจะเปิดทางนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทางสุขภาพ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความสะอาดส่วนตัวและเเม้แต่ด้านการรักษาความปลอดภัย
คุณ Rodg Snodgrass นักลงทุนที่สนับสนุนทางการเงินเเก่บริษัท start-ups เพื่อพัฒนาฮาร์ดแวร์ บอกว่า ลองจินตนาการกันดูว่าหากเรามีจมูกอิเลคทรอนิกส์แบบเคลื่อนที่ ที่ตรวจจับกลิ่นต่างๆ ได้อย่างมีอย่างเก่งกาจ จนสามารถบอกได้ว่าคุณเพิ่งรับประทานอะไรเป็นอาหาร? หรือเพิ่งดื่มอะไรลงไป?
โดยวิเคราะห์จากสารเคมีที่ออกปล่อยออกมาจากร่างกาย ใช้ตรวจจับโรคหรือตรวจจับความกลัวของคนที่กำลังจะก่อการร้าย
เขากล่าวว่า กลิ่นเป็นส่วนประกอบสำคัญในไขปริศนาหลายๆ อย่าง เเม้ว่าจะมีบริษัทเทคโนโลยีมากมายที่ละทิ้งโครงการเพราะทำไม่สำเร็จ ก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทใหม่ๆ ต้องล้มเลิกความตั้งใจตามไปด้วย
คุณ Tristan Roussell แห่งบริษัท Aryballe Technologies ที่มีฐานใน Grenoble เห็นด้วยกับคุณ Snodgrass ว่าต้องพยายามกันต่อไป บริษัทของเขาเพิ่งนำอุปกรณ์ต้นแบบตรวจกลิ่นแบบมือถือที่เรียกว่า NeOse มาเปิดตัว
โดยอุปกรณ์นี้สามารถตรวจกลิ่นต่างๆ ทั่วไปได้ถึง 50 กลิ่นด้วยกัน
ด้านคุณ David Edwards นักวิศวกรทางเคมีแห่งมหาวิทยาลัย Harvard ชี้ว่า ปัญหาคือกลิ่นเป็นสสารซึ่งต่างจากเเสงและเสียงซึ่งเป็นพลังงาน กลิ่นจึงเป็นสัญญาณที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงจากเเสงเเละเสียง ซึ่งหมายความว่าการตรวจจับกลิ่นต้องใช้ตัวเซ็นเซอร์ที่แตกต่างออกไป ส่งผลให้อุปกรณ์ตรวจจับกลิ่นยังมีขนาดเทอะทะและยังทำงานได้อย่างจำกัด เขายกตัวอย่างว่ากาแฟมีส่วนประกอบในกลิ่นมากกว่า 600 อย่างด้วยกัน
บริษัท Alpha MOS แห่งฝรั่งเศส เป็นบริษัทเเห่งแรกที่พัฒนา จมูกอิเลคทรอนิคส์ เพื่อใช้ในงานอุตสาหกรรมบางอย่าง แต่ได้ระงับโครงการไปหลังจากล้มเหลวในการพัฒนาให้อุปกรณ์ดมกลิ่นนี้มีขนาดเล็กลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เช่นเดียวกับบริษัท Boyd Sense ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ ที่ล้มเลิกโครงการไปภายในหนึ่งปี หลังจากเปิดตัวอุปกรณ์ต้นแบบของอุปกรณ์ดมกลิ่น เเละวิเคราะห์กลิ่นที่ใช้ได้กับโทรศัพท์มือถือรุ่นสมาร์ทโฟน
มาในตอนนี้ บรรดาบริษัท start-ups ทั้งหลายมุ่งเน้นเป้าหมายที่แคบลง โดยไม่สนใจว่าจะต้องเป็นอุปกรณ์แบบพกพาได้ ขณะนี้ บริษัท Aromyx ที่ตั้งอยู่ในรัฐเเคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ กำลังร่วมมือกับบริษัทผลิตอาหารรายใหญ่เพื่อจัดทำข้อมูลทางดิจิตอลเกี่ยวกับกลิ่นต่างๆ โดยใช้ตัวชิพที่เรียกว่า EssenceChip
คุณ Chris Hanson ซีอีโอของบริษัทชี้ว่าชิพดังกล่าวไม่ใช่ซิลิโคนชิพตามชื่อ และยังไม่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ เนื่องจากยังมีขนาดเทอะทะอยู่ เขากล่าวว่าอุปกรณ์ตรวจจับกลิ่นชนิดพกพาหรือเเบบติดตามตัว ยังต้องใช้เวลานานอีกนับสิบปีกว่าจะพัฒนาออกมาได้สำเร็จ
คุณ Edwards แห่งมหาวิทยาลัย Harvard กล่าวว่า ชีววิทยาด้านกลิ่นเป็นวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับประสาทวิทยา นี่ทำให้บริษัท start-ups ทั้งหลายไม่ตั้งเป้าหมายสูงเกินไป คุณ Snodgrass ที่สนับสนุนทางการเงินแก่บริษัท start-up แห่งหนึ่งที่พัฒนาอุปกรณฺวัดคุณภาพอากาศเเบบติดตามตัว
เขาชี้ว่าอุปกรณ์นี้ได้รับความสนใจมากในจีน ส่วนบริษัท Nima ระดมเงินทุนได้ 9 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถทดสอบอาหารเพื่อตรวจหาโปรตีนและสารเคมีต่างๆ รวมทั้งกลูเตน ถิ่วลิสง และนม
และทางบริษัทชี้ว่าอุปกรณ์ตัวเเรกกำลังจะออกมาวางตลาดในอีกไม่ช้านี้
เเม้ว่าการพัฒนาเทคโนโลยีการตรวจจับกลิ่นยังเป็นงานที่ท้าทายอยู่ บริษัท Samsung Electronics เพิ่งได้รับอนุญาตให้จดสิทธิบัตรอุปกรณ์ตรวจจับกลิ่นที่อาจจะใช้ได้กับอุปกรณ์ทุกประเภทตั้งเเต่โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนไปจนถึงรอยสักดิจิตอล
คุณ Avery Gilbert ผู้เชี่ยวชาญด้านกลิ่น และผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เบื้องหลังการดมกลิ่น กล่าวปิดท้ายรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า วันหนึ่งในอนาคต อุปกรณ์ดมกลิ่นอิเลคทรอนิคส์จะพบได้ทั่วไป เพราะจะถูกพัฒนาให้ใช้งานได้กับอุปกรณ์ต่างๆ ทั่วไปในชีวิตประจำวัน
เขาชี้ว่าต้องใช้เวลาและไม่มีทางที่เราจะพัฒนามันขึ้นมาได้ภายในพริบตา
(รายงานโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ส / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)