เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธใหม่ ท้าทายสหรัฐฯ หลังเจรจานิวเคลียร์ไม่คืบ

Your browser doesn’t support HTML5

North Korea Missiles

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธใหม่สองลูกในวันพฤหัสบดี ซึ่งเกาหลีใต้ออกมาแถลงว่าเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้แบบใหม่ และเป็น “ภัยคุกคามทางทหาร” โดยชี้ว่าการกระทำของรัฐบาลกรุงเปียงยางไม่ช่วยลดความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี

ในกรุงวอชิงตัน มอร์แกน ออร์เทกัส โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการกระทำที่เป็นการยั่วยุและหันหน้าเข้าสู่โต๊ะเจรจา

ออร์เทกัส กล่าวว่า สหรัฐฯ ขอให้รัฐบาลกรุงเปียงยางใช้วิธีการทางการทูตเพื่อหาหนทางปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี

Your browser doesn’t support HTML5

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธท้าทาย หลังเจรจานิวเคลียร์ไม่คืบ

การยิงทดสอบขีปนาวุธวันที่ 25 กรกฎาคม เกิดขึ้นในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จับมือกับ คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่พรมแดนเขตปลอดทหารของสองเกาหลี ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเรียกว่าอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะช่วยรื้อฟื้นการเจรจานิวเคลียร์อีกให้เดินหน้าอีกครั้ง

แต่หลังจากนั้น เกาหลีเหนือ กลับไม่เคยตอบรับข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ให้เข้าร่วมการเจรจาในระดับคณะทำงาน ซึ่งถูกมองว่าเป็นความพยายามของรัฐบาลกรุงเปียงยางที่จะเพิ่มอำนาจการต่อรอง

นักวิเคราะห์เห็นว่า การยิงทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้ไม่น่าจะทำให้การเจรจานิวเคลียร์ล่ม แต่แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ที่ไม่สามารถทำให้การเจรจาคืบหน้าไปได้ ทั้ง ๆ ที่เพิ่งมีการพบปะกันระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศ

เกาหลีเหนือเองก็ไม่พอใจที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้จะมีการซ้อมรบร่วมในเดือนสิงหาคม และขู่ว่าเกาหลีเหนืออาจจะล้มเลิกการเจรจา และหันมาพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีบและทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง

เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 3 ลูก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามีลักษณะคล้าย ขีปนาวุธ ISKANDER ของประเทศรัสเซีย ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ แต่ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถหลบเลี่ยงระบบป้องกันขีปนาวุธของเกาหลีใต้และสหรัฐฯ

และเมื่อต้นสัปดาห์นี้ เกาหลีเหนือยังเปิดเผยภาพถ่ายของ คิม จอง อึน กับเรือดำน้ำลำใหม่ ที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าน่าจะใช้เป็นฐานยิงขีปนาวุธได้

บอง ยังชิค นักวิจัยด้านเกาหลีเหนือแห่งมหาวิทยาลัยยนไซ ประเทศเกาหลีใต้ มองว่าเกาหลีเหนือต้องการจะเพิ่มการยั่วยุท้าทายสหรัฐฯ แต่ก็จะไม่กล้าล้ำขอบเขต เขาบอกว่า คิม จอง อึน ยังต้องการรักษาสัมพันธ์กับประธานาธิบดีทรัมป์ จึงไม่น่าจะทำอะไรที่ทำให้ทรัมป์โกรธเคือง

นักวิเคราะห์ยังมองว่า เกาหลีเหนือจะฉวยโอกาสในระหว่างที่การเจรจานิวเคลียร์ไม่คืบหน้า ลักลอบพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ไปเรื่อย ๆ เพื่อกดดันให้สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ยื่นข้อเสนอที่ดีขึ้น โดยที่เกาหลีเหนือไม่ต้องเสียอะไรมาก

เกาหลีเหนือขอให้สหรัฐฯ เปลี่ยนท่าทีการเจรจาภายในสิ้นปีนี้ โดยต้องการให้สหรัฐฯ รับประกันความมั่นคง และผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ เพื่อแลกกับการปลดโครงการอาวุธนิวเคลียร์ทีละขั้นตอน

ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันว่าเขาไม่รีบร้อนที่จะบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ และเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างตนเองและคิม จอง อึน จะสามารถโน้มน้าวให้ผู้นำเกาหลีเหนือล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ในที่สุด

แต่นักวิเคราะห์มองว่า การทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุด แสดงให้เห็นว่าแม้แต่ความสัมพันธ์ส่วนตัวระดับผู้นำก็ยังมีข้อจำกัด และการที่ทรัมป์เดินทางไปหา คิม จอง อึน ที่พรมแดนระหว่างสองเกาหลี พร้อมแสดงความต้องการให้มีการเจรจา ยิ่งทำให้คิม จอง อึน ถือไพ่เหนือกว่า และเมื่อคิมไม่ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ ผู้นำเกาหลีเหนือก็ไม่ลังเลที่จะแสดงให้เห็นว่า แค่จับมือกัน มันยังไม่เพียงพอ