ทางการญี่ปุ่นระบุ เกาหลีเหนือระดมยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ลงทะเลในวันอังคาร ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเปิดคูหาเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตามการรายงานของเอพี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น เก็น นาคาทานิ กล่าวว่ามีจรวดจากเกาหลีเหนือย่างน้อยเจ็ดลูก บินเป็นระยะทางไกลสุด 400 กม. ไต่ระดับความสูงที่ 100 กม. ก่อนที่จะตกลงในทะเลระหว่างคาบสมุทรเกาหลีและญี่ปุ่น
นาคาทานิกล่าวว่า “การกระทำของเกาหลีเหนือหลายเรื่องรวมทั้งการยิงขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง คุกคามสันติสุขและความปลอดภัยของญี่ปุ่น ของภูมิภาค และของประชาคมนานาชาติ”
กองทัพเกาหลีใต้ก็ตรวจจับขีปนาวุธจากเพื่อนบ้านทางเหนือได้หลายลูกเช่นเดียวกัน และได้เพิ่มความเข้มงวดในการสอดส่องดูแลให้มากขึ้น เนื่องจากจรวดเหล่านี้อาจถูกใช้สำหรับเป้าหมายจริง เช่นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเกาหลีเหนือ รวมถึงฐานทัพอเมริกันในพื้นที่
การทดสอบครั้งนี้มีขึ้นไม่กี่วันหลังผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ประกาศทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลรุ่นใหม่ ที่ออกแบบให้ยิงถึงแผ่นดินของสหรัฐฯ ซึ่งทาง
กรุงวอชิงตันตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวดังกล่าวด้วยการบินเครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B ระหว่างร่วมซ้อมรบกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เมื่อวันอาทิตย์เพื่อแสดงแสนยานุภาพ
ในวันอังคาร คิม โย จอง น้องสาวของคิม จอง อึน ออกแถลงการณ์ประณามการซ้อมรบของทั้งสามชาติ ว่าเป็นการยกระดับความตึงเครียดด้วยภัยคุกคามทางทหาร
ทางการเกาหลีใต้คาดว่ากรุงเปียงยางจะมีความเคลื่อนไหวทางการทหารในช่วงเวลาเดียวกันกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากกรุงวอชิงตัน
เจ้าหน้าที่และนักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่าเกาหลีเหนือน่าจะหวังผลในการใช้คลังอาวุธนิวเคลียร์มาเป็นแต้มต่อกับผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ ในการเจรจาลดหย่อนมาตรการคว่ำบาตรที่ดำเนินอยู่
หลายความเห็นเชื่อว่าคิม จอง อึน อยากให้โดนัลด์ ทรัมป์ แคนดิเดตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง เพราะคาดว่าน่าพูดคุยต่อรองได้ง่ายกว่าคามาลา แฮร์ริส ผู้เป็นคู่แข่ง
เมื่อปี 2018-2019 ทรัมป์เคยพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบันมาแล้ว
ความตึงเครียดระหว่างสองเกาหลีอยู่ในจุดที่สูงที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา หลังจากคิมขยายโครงการขีปนาวุธและคลังแสงนิวเคลียร์ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีรายงานว่ากรุงเปียงยางส่งทหารไปช่วยรัสเซียในสงครามกับยูเครน
หลังการพบกันในกรุงโซลเมื่อวันจันทร์ เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหภาพยุโรปและเกาหลีใต้กังวลว่ารัสเซียจะตอบแทนเกาหลีเหนือด้วยการส่งมอบเทคโนโลยีที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของโครงการนิวเคลียร์ที่มีอยู่ ที่อาจบ่อนทำลายความพยายามลดการแข่งขันทางอาวุธนิวเคลียร์ในระดับนานาชาติ และคุกคามสันติภาพของคาบสมุทรเกาหลีและพื้นที่อื่นของโลก
คิม ซอง เอกอัคราชทูตเกาหลีเหนือกล่าวในการประชุมสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่ากรุงเปียงยางจำเป็นต้องทำโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีป เพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากสหรัฐฯ
โรเบิร์ต วูด รองเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เตือนว่าสหรัฐฯ ไม่สามารถนิ่งเฉยต่อการขยายโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น “โดยไม่มีการตอบสนองใด ๆ”
- ที่มา: เอพี