สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานในวันพฤหัสบดีว่า มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัส เพิ่มอีก 262,270 คน และมีผู้เสียชีวิตอีก 1 คน ทำให้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขรวมของผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศนี้พุ่งขึ้นเป็นเกือบ 2 ล้านคน โดยมีผู้เสียชีวิตไปทั้งหมด 63 คนแล้ว
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลภาวะการระบาดใหญ่ในเกาหลีเหนือ และเชื่อว่า รัฐบาลกรุงเปียงยางกำลังพยายามซ่อนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ด้วยเหตุผลทางการเมือง หรือไม่ ก็เป็นเพราะไม่มีเครื่องมือและกำลังพลมากพอที่จะติดตามเส้นทางการระบาดของไวรัส
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์หลายรายพยายามเตือนมานานแล้วว่า การระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัสในเกาหลีเหนืออาจส่งผลทำลายล้างรุนแรงต่อประเทศที่ประชาชนส่วนใหญ่อยู่ในสภาพยากจนข้นแค้นนี้ ซึ่งไม่มีระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ทั้งยังมุ่งเน้นการดูแลเฉพาะผู้มีฐานะร่ำรวยเท่านั้น
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เสนอยื่นความช่วยเหลือด้านวัคซีนโควิด-19 และความช่วยเหลืออื่น ๆ ให้กับเกาหลีเหนือไปแล้ว แต่นักวิเคราห์เตือนว่า แม้ในสถานการณ์จะรุนแรงเช่นในปัจจุบัน กรุงเปียงยางก็ไม่น่าจะยอมรับความช่วยเหลือจากภายนอกประเทศอยู่ดี
"The United States continues to support the provision of vaccines to the DPRK. We would like to see humanitarian, including medical relief, provided to the people of the DPRK," says @StateDeptSpox. pic.twitter.com/H8HBqlAoOD
— William Gallo (@GalloVOA) May 17, 2022
เลฟ เอริค-อีสลีย์ ศาสตราจารย์จาก มหาวิทยาลัยอีฮวา ในกรุงโซล กล่าวว่า แม้เกาหลีเหนือจะยืนยันว่า พบการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ นั้นไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลกรุงเปียงยางยินดีที่จะยื่นมือออกมารับความช่วยเหลือจากประชาคมโลก แต่น่าจะเลือกเดินหน้าทำการทดสอบอาวุธของตนต่อไป เพื่อ “หลีกเลี่ยงการแสดงความอ่อนแอ” นั่นเอง
ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือปฏิเสธหรือไม่ก็เพิกเฉยต่อข้อเสนอด้านความช่วยเหลือเกี่ยวกับโควิด-19 ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง การนำส่งวัคซีนจากโครงการโคแวกซ์ ที่องค์การสหประชาชาติให้การสนับสนุนอยู่
องค์การอนามัยโลก รายงานว่า ในเวลานี้ มีเพียงเกาหลีเหนือและเอริเทรีย เพียง 2 ประเทศในโลกที่ยังไม่ได้เริ่มการฉีดวัคซีนเป็นวงกว้างในประเทศเลย