นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ สั่งประหารชีวิตผู้คนและล็อคดาวน์กรุงเปียงยางเมืองหลวง เพื่อสกัดกั้นการระบาดของโควิด-19 ในดินแดนโสมแดง พร้อมสงวนท่าทีต่อทิศทางการเมืองสหรัฐฯ ตามรายงานของ Associated Press
ทางสำนักข่าว Associated Press อ้างรายงานจาก National Intelligence Service หรือ NIS หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ ที่เปิดเผยข้อมูลกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกาหลีใต้ว่า ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่ง และมีมาตรการที่ไม่สมเหตุสมผล ในการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ที่กระทบต่อเศรษฐกิจโสมแดง
มาตรการที่ว่านี้ มีทั้งการสั่งประหารชีวิตผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในกรุงเปียงยางเมื่อเดือนก่อน หลังจากพบว่าค่าเงินอ่อนค่า และประหารชีวิตเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกรายเมื่อเดือนสิงหาคม ฐานละเมิดระเบียบของรัฐ ที่ห้ามนำสินค้าจากต่างชาติเข้าประเทศ
นอกจากนี้ ผู้นำเกาหลีเหนือ ยังสั่งห้ามทำประมงและผลิตเกลือทะเล เพื่อไม่ให้น้ำทะเลปนเปื้อนโคโรนาไวรัส โควิด-19 และสั่งล็อคดาวน์กรุงเปียงยางและจังหวัดจากัง ทางตอนเหนือของประเทศ จากความกังวลเรื่องการระบาดของโควิด-19 จากที่เมื่อเดือนก่อน รัฐบาลเกาหลีเหนือสั่งล็อคดาวน์พื้นที่อื่นๆ หลังพบเจ้าหน้าที่ลักลอบนำสินค้าและเงินตราต่างประเทศเข้ามา เพราะเกรงว่าจะมีเชื้อโควิด-19
หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ ยังพบว่า เกาหลีเหนือล้มเหลวในการเจาะล้วงข้อมูลบริษัทยาและเวชภัณฑ์ของเกาหลีใต้อย่างน้อย 1 แห่ง ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาวัคซีนโควิดด้วย
ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 มาก่อน และเกาหลีเหนือยืนยันว่าได้ทำทุกวิถีทางในการป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศ ตั้งแต่การปิดพรมแดนระหว่างจีนที่เป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของเกาหลีเหนือเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งกระทบกับเศรษฐกิจโสมแดงอย่างมาก ตั้งแต่ราคาสินค้าในเกาหลีเหนือ เช่นราคาน้ำตาลและเครื่องปรุงต่างๆ พุ่งสูงขึ้น 4 เท่าตัวในช่วงที่ผ่านมา และค่าเงินวอนเกาหลีเหนือต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าหนัก จากการปิดพรมแดนครั้งนี้
อีกด้านหนึ่ง หน่วยงาน NIS ของเกาหลีใต้ ระบุด้วยว่า รัฐบาลเปียงยางสั่งการให้นักการทูตในต่างประเทศ หลีกเลี่ยงพฤติการณ์ที่อาจเป็นการยั่วยุสหรัฐฯ จากความกังวลถึงท่าทีต่อเกาหลีเหนือ ภายใต้รัฐบาลของว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ
ขณะที่รัฐบาลเกาหลีเหนือยังไม่มีท่าทีใดๆ ต่อชัยชนะของไบเดนเหนือประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ผู้นำคิมได้พบปะมาแล้วถึง 3 ครั้ง ช่วงปี ค.ศ. 2018-2019 และทั้งคู่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีระหว่างกัน
ส.ส. คิม บยอง กี ของเกาหลีใต้ อ้างรายงานของ NIS ตอนหนึ่งที่ว่า เกาหลีเหนือมีความกังวลว่าความสัมพันธ์ฉันท์มิตรของผู้นำคิมและปธน.ทรัมป์ จะไร้ประโยชน์ไปแล้ว และเกาหลีเหนือต้องเริ่มจากศูนย์เพื่อสร้างสัมพันธ์กับรัฐบาลไบเดนอีกครั้ง
ในรายงานของ NIS ระบุว่า เกาหลีเหนือเตรียมจัดพิธีสวนสนามของกองทัพ ก่อนการประชุมสภาครั้งแรกในรอบ 4 ปีในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งจะใกล้เคียงกับพิธีปฏิณาณตนเข้ารับตำแหน่งของผู้นำสหรัฐฯ พอดี รวมทั้งจะมีการเปิดเผยนโยบาย 5 ปีของเกาหลีเหนือต่อสหรัฐฯ ในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
ด้านผู้เชี่ยวชาญต่างถกเถียงกันว่า เกาหลีเหนือจะกลับมาทดสอบขีปนาวุธอีกครั้งในเร็ววันนี้ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากว่าที่ปธน.ไบเดนหรือไม่ จากที่ผ่านมา ผู้นำคิม มักเปิดการทดสอบจรวดครั้งใหญ่ เพื่อสร้างการต่อรองและเปิดทางให้เกิดการเจรจากับรัฐบาลอเมริกัน ทุกครั้งที่สหรัฐฯ มีการเลือกตั้งและได้ผู้นำคนใหม่