กลุ่มประเทศส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก และพันธมิตรที่รวมถึงรัสเซีย ประกาศไม่ปรับเปลี่ยนเป้าหมายการส่งออกของตน ในขณะที่สถานการณ์ตลาดโลกยังมีความไม่แน่นอนจากผลกระทบของมาตรการล่าสุดจากประเทศตะวันตกในการควบคุมราคาน้ำมันจากรัสเซีย
รัฐมนตรีที่รับผิดชอบกิจการด้านน้ำมันของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร ที่รู้จักกันในชื่อ ‘โอเปกพลัส’ ประกาศการตัดสินใจดังกล่าวออกมาในวันอาทิตย์ หรือหนึ่งวันก่อนที่มาตรการลงโทษล่าสุดจากชาติตะวันตกต่อรัสเซียจะมีผลบังคับใช้ อันได้แก่ มาตรการจำกัดราคาน้ำมันรัสเซียไว้ที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลซึ่ง แจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เป็นผู้เสนอ เพื่อหวังลดรายได้จากธุรกิจน้ำมันของรัฐบาลมอสโกเพื่อนำไปสนับสนุนกิจการทางทหารและการรุกรานยูเครน และมาตรการห้ามนำเข้าน้ำมันส่วนใหญ่จากรัสเซียที่สหภาพยุโรปและสมาชิกกลุ่มประเทศจี-7 เตรียมดำเนินการ
การดำเนินการมาตรการใหม่นี้น่าจะทำให้อุปทานในตลาดโลกหดตัวและทำให้ราคาพุ่งขึ้น แต่ยังไม่มีใครกล้าฟันธงว่า ผลกระทบในที่สุดนั้นจะมากเพียงใด โดยที่ผ่านมา รัสเซียซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันอันดับที่ 2 ของโลก สามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งน้ำมันส่วนใหญ่ที่เคยวิ่งผ่านยุโรปเพื่อหลบเลี่ยงมาตรการลงโทษต่าง ๆ ไปยังอินเดีย จีน และตุรกีได้อยู่
ขณะเดียวกัน อเล็กซานเดอร์ โนวัก รัฐมนตรีพลังงาน กล่าวในวันอาทิตย์ว่า กรุงมอสโกจะไม่ยอดขายน้ำมันในราคาที่รัฐบาลชาติตะวันตกสั่งควบคุมไว้ ถึงแม้ว่ารัสเซียจะต้องลดการผลิตก็ตาม
รมต.โนวัก กล่าวว่า “เรากำลังพิจารณากลไกต่าง ๆ เพื่อหยุดยั้งการใช้เครื่องมือควบคุมราคา ไม่ว่ากลไกนั้นจะรุนแรงเพียงใดก็ตาม เพราะการแทรกแซงเช่นนั้นอาจสั่นคลอนเสถียรภาพตลาดได้” และว่า “เราจะขายน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมให้เพียงกับประเทศที่ยินยอมทำตามเงื่อนไขของตลาด แม้ว่า เราอาจต้องลดการผลิตลงเล็กน้อย”
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวว่า มาตรการควบคุมราคานั้นมีผลเพียงเล็กน้อย แต่จอห์น เคอร์บี ผู้ประสานงานสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า การสั่งจำกัดราคาน้ำมันรัสเซียไว้ที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลนั้นเป็นระดับที่เหมาะสมต่อการสร้างสมดุลระหว่างการลดการทำกำไรของมอสโกและการรักษาอุปทานให้มีพอสำหรับความต้องการใช้งาน
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี รอยเตอร์และเอเอฟพี