Your browser doesn’t support HTML5
ข้อมูลใหม่รวมทั้งภาพเรดาร์จากดาวเทียม เเสดงให้เห็นว่าพื้นที่หลายจุดของเกาะใต้ในนิวซีแลนด์ได้เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้กับเกาะเหนือมากขึ้นอีกกว่า 5 เมตร และบางจุดเคลื่อนเข้าไปใกล้ถึงเกือบ 8 เมตร
ข้อมูลอื่นๆ ที่ใช้ประกอบยังมาจากการสังเกตุการณ์ภาคพื้นดินและรายงานวิเคราะห์พื้นที่แนวชายฝั่งโดย GNS หน่วยงานวิจัยของรัฐบาลนิวซีเเลนด์
หน่วยงานวิจัย GNS ได้ตีพิมพ์รายงาน 10 ชิ้นเเรกเกี่ยวกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่หนนี้ ที่เกิดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ในวารสาร Science
รายงานผลการศึกษาของ GNS ได้รวมเอางานเขียนของนักวิจัย 29 คนจาก 11 สถาบันระดับชาติและระดับนานาชาติ รวมทั้งองค์การสำรวจอวกาศแห่งสหรัฐฯ หรือนาซ่า และมหาวิทยาลัยลีดส์ในอังกฤษ
มีคนเสียชีวิตสองรายในเหตุเเผ่นดินไหวที่มีแมกนิจูด 7.8 และเมืองไคคูร่า เเหล่งท่องเที่ยวถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเพราะเกิดเหตุดินถล่ม เเรงสะเทือนครั้งนั้นยังทำให้เกิดการเเยกของพื้นดินยาวเกือบ 200 เมตรอีกด้วย
Ian Hamling หัวหน้าผู้ร่างรายงานผลการวิจัยกล่าวว่า การเคลื่อนตัวของพื้นโลกในนิวซีเเลนด์ เกิดขึ้นจากเเรงสะเทือนใต้โลกที่รุนแรงได้ดึงพื้นโลกไปในหลายทิศทาง
เขากล่าวว่า "เหตุเเผ่นดินไหวครั้งนั้นเหมือนกับการออกเเรงดึงจากสองทิศ เปลือกโลกสองฟากของบริเวณรอยต่อเคลื่อนตัวไปในทางตรงกันข้ามกัน ทำให้พื้นที่หลายจุดในเกาะใต้จากเมืองไคคูร่าไปจนถึงเคปแคมป์เบลในเกาะใต้ เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และบางพื้นที่ที่อยู่ทางใต้เคลื่อนตัวไปในทิศตรงกันข้าม"
แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทางะวันออกเฉียงเหนือของเมืองไครสต์เชิร์ช และสามารถรู้สึกถึงเเรงสั่นสะเทือนได้ที่กรุงเวลลิงตัน เมืองหลวงของนิวซีเเลนด์ ที่อยู่บนเกาะเหนือห่างออกไป 200 กิโลเมตร
เมืองไครสเชิร์ช ยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวจากเหตุเเผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อ 6 ปีที่เเล้ว มีคนเสียชีวิตถึง 185 คน และสร้างความเสียหายเเก่ตัวเมืองอย่างมาก
ประเทศนิวซีแลนด์ตั้งอยู่บนรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกออสเตรเลียและแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "วงแหวนแห่งไฟ"
แต่ละปี นิวซีแลนด์ต้องเผชิญกับแผ่นดินไหวสูงถึง 15,000 ครั้ง แต่มีเพียงราว 150 ครั้งที่แรงสั่นสะเทือนเเรงพอที่จะรู้สึกได้
(รายงานโดย Phil Mercer / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว )