9 ปีที่ไม่ง่ายของแอปเปิล ใต้ปีก “ทิม คุก” - คำในข่าว

FILE – Apple CEO Tim Cook contends that complying with a government demand to help unlock an iPhone would endanger civil liberties. He’s shown at a 2015 news conference in New York.

24 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นโอกาสครบรอบ 9 ปี ที่ ทิม คุก เข้ามารับช่วงต่อจาก สตีฟ จ็อบส์ ในการบริหารบริษัทแอปเปิล ท่ามกลางความท้าทายที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด วันนี้คุณนีธิกาญจน์ กำลังวรรณ จะมาเล่าให้ฟังถึงเรื่องนี้ พร้อมคำศัพท์ที่น่าสนใจ ติดตามได้ในช่วงคำในข่าว

Your browser doesn’t support HTML5

Newsy Vocab


พาดหัวข่าวของ Associated Press ระบุว่า Apple CEO Tim Cook is fulfilling another Steve Jobs vision หมายถึง ซีอีโอแอปเปิล ทิม คุก กำลังทำให้วิสัยทัศน์อีกอย่างหนึ่งของ สตีฟ จ็อบส์ ผู้ล่วงลับ เป็นจริงขึ้นมาได้

9 ปีหลังการจากไปของผู้ก่อตั้งแอปเปิล สตีฟ จ็อบส์ ชายผู้เป็นตำนานในการสร้างสิ่งที่มนุษย์ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นบนโลก ให้กลายเป็นสิ่งใกล้ตัวเหมือนอวัยวะชิ้นที่ 33 ของคนเรา นั่นคือ สมาร์ทโฟน และตำนานของเขาได้สร้างโจทย์ใหญ่ให้ผู้รับช่วงต่ออย่าง ทิม คุก ต้องสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนแอปเปิลต่อไปให้ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก

เส้นทางของ ทิม คุก ในช่วงแรกของการเข้ามาบริหารแอปเปิลต่อจาก สตีฟ จ็อบส์ เมื่อปี 2011 เป็นเหมือนพี่เลี้ยงที่ต้องดูแลแบรนด์แอปเปิลต่อจากผู้ก่อตั้งที่จากไป และดูไม่ได้มีบทบาทที่โดดเด่นชัดเจนในระยะแรกๆ

แต่เมื่อผ่านพ้นมาถึงขวบปีที่ 9 ทิม คุก นำพาแอปเปิลขึ้นแท่นบริษัทสัญชาติอเมริกันแห่งแรกที่มีมูลค่าตามราคาหุ้นรวมถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ นับเป็นการเติบโตถึง 5 เท่าตัว ในระยะ 9 ปี พร้อมกับการแตกหุ้นถึง 2 ครั้งในช่วงที่เขามาบริหารแอปเปิล ขณะที่ราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งสูงถึง 3 เท่าตัวในช่วงเวลาเดียวกันนี้

ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จของแอปเปิล ใต้การบริหารของ ทิม คุก และที่ชัดเจนกว่านั้น คือสะท้อนความสำเร็จของสตีฟ จ็อบส์ ในการสร้างบุคลากรที่นำพาองค์กรให้ไปถึงเป้าหมายได้ แม้จะไม่ได้รับการพูดถึงมากพอในเรื่องนี้ก็ตามที

เส้นทางของ ทิม คุก ไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่คิด เพราะในระยะ 9 ปีที่ผ่านมา แอปเปิล เผชิญกับแรงสั่นสะเทือนมากมาย จากยอดขายไอโฟนที่ชะลอตัวจากคู่แข่งในตลาดสมาร์ทโฟนที่ดุเดือด การตรวจสอบประเด็นความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ไอโฟนจากทางเอฟบีไอ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน และล่าสุดคือวิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบรุนแรงไปทั่วโลก

สิ่งที่สร้างความโดดเด่นให้ ทิม คุก ซีอีโอในวัย 59 ปี คือ การพาแอปเปิลเข้าสู่ยุคใหม่ขององค์กรที่เปิดกว้างและทันสมัยขึ้น ทั้งการประกาศจ่ายปันผลหุ้นแอปเปิลรายไตรมาส ซึ่งไม่เคยมีในยุคของสตีฟ จ็อบส์ การเป็นซีอีโอที่เป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมืองและพลังงานทดแทนอย่างแข็งขัน และในชีวิตส่วนตัว ทิม คุก ถือเป็นซีอีโอของบริษัทขนาดใหญ่ที่ติดอันดับ Fortune 500 คนแรก ที่ออกมายอมรับว่าเป็นเกย์อย่างเปิดเผย ซึ่งแตกต่างจากผู้บริหารองค์กรใหญ่ระดับโลกในยุคเก่าๆ

อย่างไรก็ตาม แนวทางการบริหารของ ทิม คุก ที่เน้นหนักไปที่สิ่งที่สำคัญและมีความหมายที่สุดของแอปเปิล ในการเป็นผู้ผลิตชิพรายใหญ่เพื่อรองรับไอโฟนและคอมพิวเตอร์แมค รวมทั้งการปรับกลยุทธ์ที่สร้างรายได้นอกเหนือจากการพึ่งพายอดขายไอโฟนเป็นหลัก แต่สิ่งที่ขาดหายไปในระยะ 9 ปีของแอปเปิล คือ นวัตกรรมใหม่ที่เปลี่ยนโลก เหมือนที่ สตีฟ จ็อบส์ ได้สร้างเอาไว้ก่อนจากไป

คำในข่าว สัปดาห์นี้ เราเห็นคำว่า A tough act to follow จากประโยคในข่าวที่ว่า Apple co-founder Steve Jobs, who died in 2011, was a tough act to follow. หมายความว่า ความสำเร็จของ สตีฟ จ็อบส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิล ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2011 นั้น เป็นงานยากที่จะต่อยอดความสำเร็จได้

คำว่า A tough act to follow เป็นสำนวน หมายถึง งานหิน งานยาก หรือ เรื่องยากที่จะตามรอยความสำเร็จได้ สามารถใช้แทนว่า A hard act to follow ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ A tough act to follow ในที่นี้ จะคล้ายๆกับ คำพูดที่ว่า to fill a big void

คำว่า void เป็นคำนาม แปลว่า พื้นที่ว่าง

ตัวอย่างเช่น After Pete quit to run his own restaurant, his sous chef has a very big void to fill. หมายความว่า หลังจากที่พีทลาออกไปเปิดร้านอาหารของตัวเอง ผู้ช่วยเชฟเลยเจองานหนักที่ต้องสานต่อหน้าที่สำคัญจากพีท

ในข่าวนี้ มีอีกสำนวน คือ have big shoes to fill หมายถึง งานใหญ่ที่ต้องสานต่อความสำเร็จจากคนเก่งอีกที หรือ แปลสวยๆได้ว่า สืบทอดตำนาน

ตามตัวอย่างจากข่าวนี้ คือ Tim Cook seems to be doing so well at it that his eventual successor may also have big shoes to fill. หมายความว่า ดูเหมือนว่า ทิม คุก ทำหน้าที่นี้ได้อย่างดีเยี่ยม จนอาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนที่จะมารับช่วงต่อจากเขาอย่างแน่นอน

อีกสำนวนหนึ่ง คือ measure up และ measure up to

คำว่า measure เป็นกริยา หมายถึง วัด, ประมาณ หรือ กะ

สำนวนที่ว่า measure up และ measure up to มักใช้ในบริบทที่ว่า ถูกคาดหวังให้ทำในสิ่งที่ไม่ง่าย

ตัวอย่างเช่น No matter how hard I have tried, my work doesn't quite measure up to my manager's high standards. หมายความว่า ไม่ว่าฉันจะพยายามมากขนาดไหน งานของฉันก็ยังไปไม่ถึงตามมาตรฐานอันสูงส่งของผู้จัดการอยู่ดี

ส่วนตัวอย่างการใช้ "measure up" ที่ให้ความหมายว่า ถูกคาดหวังให้ทำในสิ่งที่ไม่ง่าย เช่น Alex has signed up many times for singing contests. Yet, he hasn't heard back at all. He believes he would never measure up. หมายความว่า อเล็กซ์สมัครเเข่งร้องเพลงมาหลายรายการแล้ว แต่ก็ยังไม่ถูกเรียกตัวไปสักที เขาเลยคิดว่าเขาคงดีไม่พอ

ง่ายๆ เลยคือ ถ้าอยากพูดว่า ทำได้ตามความคาดหมาย สามารถใช้ได้ว่า meet expectation หรือ meet requirements

แต่ถ้าดีกว่าที่คาดหมายเอาไว้ ให้ใช้ beat expectation

ตัวอย่างเช่น This soccer team beat everyone's expectation to finish among top three in the league, having been an underdog in the past season.

ทีมฟุตบอลนี้ ทำผลงานเหนือความคาดหมายของทุกคน ด้วยการทำแต้มสูงสุดติดหนึ่งในสามของทีมในลีกเดียวกัน หลังจากที่ในฤดูกาลที่แล้วตามหลังทีมอื่นมาตลอด

ส่งท้ายด้วยคำคมจากนักพูดเดี่ยวไมโครโฟน มิตช์ เฮดเบิร์ก (Mitch Hedberg) ที่ว่า I’m a hard act to follow, because when I’m done, I take the microphone with me. หมายความว่า การจะเป็นแบบฉันไม่ง่ายนะ เพราะพอฉันพูดจบก็เก็บไมค์ ใครก็ตามไม่ทันแล้ว

Your browser doesn’t support HTML5

Newsy Vocab คำในข่าว Ep.9 : งานหิน, งานยาก ภาษาอังกฤษใช้คำว่าอะไร?