เมื่อวันอาทิตย์กองกำลังความมั่นคงของเมียนมายิงใส่ผู้คนซึ่งไปร่วมพิธีศพ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 100 คนจากการประท้วงกองทัพเมียนมาเมื่อวันเสาร์
การยิงใส่พลเรือนขาวเมียนมาที่ไปร่วมพิธีศพนี้มีขึ้นที่เมืองพะโคทางตะวันออกเฉียงเหนือของนครย่างกุ้งแต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยพิธีศพที่ว่านี้มีขึ้นสำหรับนายเท เมือง เมือง ชายวัย 20 ปีหนึ่งในบรรดาผู้ที่ต้องเสียชีวิตไปรวม 114 คนเมื่อวันเสาร์
อีกด้านหนึ่ง ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพจากกว่า 10 ประเทศซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ ด้วยได้ออกคำแถลงร่วมเมื่อวันเสาร์ประณามการที่กองทัพเมียนมาใช้อาวุธร้ายแรงจนถึงชีวิตกับพลเรือนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยและไม่มีอาวุธ โดยคำแถลงฉบับนี้ระบุว่ากองทัพที่มีความเป็นมืออาชีพจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานระหว่างประเทศในเรื่องความประพฤติและมีความรับผิดชอบในการปกป้องคุ้มครองไม่ใช่ทำร้ายประชาชนซึ่งกองทัพนั้นมีหน้าที่รับใช้อยู่ และว่าเราเร่งร้องให้กองทัพเมียนมายุติความรุนแรงและดำเนินการเพื่อฟื้นฟูความน่าเชื่อถือและการได้รับความเคารพจากประชาชนชาวเมียนมาที่ต้องสูญเสียไปจากการกระทำในครั้งนี้
คำแถลงร่วมจากผู้บัญชาการกองทัพของนานาประเทศซึ่งรวมถึงออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา เดนมาร์ก เยอรมนี กรีซ อิตาลี ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์และสหรัฐฯ นี้มีขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์รุนแรงในเมียนมาเมื่อวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ 114 คนนับตั้งแต่ที่กองทัพเมียนมาเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาล และในบรรดาผู้เสียชีวิต 114 คนนี้มีเด็กชายอายุห้าขวบรวมอยู่ด้วย ซึ่งโฆษกของเลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติได้มีคำแถลงตำหนิอย่างรุนแรงที่สุดต่อการสังหารพลเรือน ซึ่งรวมถึงเด็กและผู้เยาว์ โดยกองกำลังความมั่นคงของกองทัพ และได้ขอให้กองทัพเมียนมาละเว้นจากการใช้กำลังรุนแรงและการกดขี่ปราบปรามประชาชนด้วย