ส.ว.เบอร์นีย์ แซนเดอร์ส (Bernie Sanders) ผู้ลงสมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้สมัครคนอื่น ๆ กำลังมุ่งหน้าหาเสียงในรัฐเนวาด้าและรัฐเซาธ์แคโรไลนา ที่จะจัดการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคเดโมแครตเป็นพรรคต่อไปในวันที่ 22 ก.พ. และวันที่ 29 ก.พ. ตามลำดับ
ในสองรัฐดังกล่าวซึ่งเป็นสนามเลือกตั้งต่อไป ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตจะต้องเผชิญกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่มีพื้นเพที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นกว่าสองรัฐแรกที่มีการเลือกตั้งไปแล้ว คือรัฐไอโอวาและนิวแฮมป์เชียร์
ที่รัฐเนวาด้า ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน และเชื้อสายละตินอเมริกัน ถือเป็นกลุ่มใหญ่ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ในขณะที่รัฐเซาธ์แคโรไลนา เสียงของชาวอเมริกันผิวสีก็มีความสำคัญไม่น้อยเช่นกัน
ต่อจากรัฐเนวาด้าและนิวแฮมป์เชียร์ บรรดาผู้สมัครก้จะต้องเตรียมตัวเข้าสู่สนามเลือกตั้งใหญ่ในวันที่ 3 มีนาคม ที่เรียกว่า Super Tuesday ซึ่งจะมีการเลือกตั้งขั้นต้นใน 14 รัฐทั่วประเทศ รวมทั้งรัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐเท็กซัส เพื่อแย่งชิงจำนวนผู้แทนการเลือกตั้งหลายร้อยคน
สำหรับผลการเลือกตั้งที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์เมื่อวันอังคาร ส.ว.แซนเดอร์ส จากรัฐเวอร์มอนต์ ได้รับชัยชนะเหนืออดีตนายกเทศมนตรีเมืองเซาธ์เบนด์ รัฐอินเดียนา พีท บูดิเจ็จ (Pete Buttigieg) 26% ต่อ 24% โดยมี ส.ว.เอมี โคล์บูชาร์ (Amy Klobuchar) ตามมาที่สามที่ 20% ซึ่งถือว่าสร้างความแปลกใจไม่น้อยให้กับบรรดาผู้ติดตามการเมืองอเมริกัน
อันดับสี่ คือ ส.ว. เอลิซาเบ็ธ วอร์เรน (Elizabeth Warren) ได้ไป 9% และอันดับห้า คือ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเด้น (Joe Biden) ซึ่งเคยนำเป็นที่หนึ่งในทุกโพลล์สำรวจในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ตัวแปรสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคเดโมแครต คือ นายไมเคิล บลูมเบิร์ก มหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจสื่อและอดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก อาจเข้าสู่สนามเลือกตั้งขั้นต้นในรัฐเนวาด้าด้วยเพื่อเป็นตัวเลือกในบรรดาผู้สมัครต่าง ๆ หลังจากที่ไม่ได้ลงเลือกตั้งขั้นต้นในรัฐนิวแฮมป์เชียร์เมื่อวานนี้
ขณะนี้นายบลูมเบิร์กได้คะแนนนิยมจากชาวพรรคเดโมแครตอยู่ที่ระดับ 15% แม้เขาจะยังไม่เคยเข้าร่วมเวทีการอภิปรายโต้คารมกับผู้สมัครคนอื่นของพรรคเดโมแครตก็ตาม
และผลการสำรวจของ Quinnipiac Poll ในสัปดาห์นี้ บ่งชี้ว่า ในการเลือกตั้งทั่วไป หากทางเลือกสำหรับตำแหน่งประธานาธิบดีของทั้งสองพรรค คือ ประธานาธิบดีทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน และนายไมเคิล บลูมเบิร์ก ของพรรคเดโมแครตแล้ว นายบลูมเบิร์กจะเป็นฝ่ายมีชัยเหนือประธานาธิบดีทรัมป์ด้วยคะแนนถึง 9%