กวาง “ซอมบี้” ที่มีอาการป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบประสาท เดินโซเซ น้ำลายยืด เตร็ดเตร่เร่ร่อนใน 24 รัฐของอเมริกา
รัฐเนวาดาพยายามหาแนวทางเลี่ยงการติดเชื้อในฤดูกาลล่าสัตว์นี้ โดยกรมสัตว์ป่าของรัฐได้มีการผลักดันให้นักล่าสัตว์ทั้งหลายนำซากกวางที่ล่ามาไปตรวจดูว่าติดเชื้อโรคที่ทำลายระบบประสาท ซึ่งทำให้เป็นโรคกวาง “ซอมบี้” หรือไม่
กวางที่ติดเชื้อโรคนี้จะมีอาการเจ็บป่วยรุนแรงถึงตาย และเป็นโรคที่ส่งผลต่อสมองและไขสันหลังของทั้งกวางป่า กวางเอลค์ และกวางมูซ
กรมสัตว์ป่าได้ติดตั้งสถานีเคลื่อนที่ไว้ตรงที่จอดรถบรรทุกตามแนวเขตรัฐเพื่อป้องกันไม่ให้การติดเชื้อเข้าไปในรัฐ การตรวจตัวอย่างจากซากกวางใช้เวลาประมาณห้านาที และการตรวจนี้จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อเนื้อหรือเขากวาง
สถานีเคลื่อนที่นี้เป็นมาตรการล่าสุดในการปกป้องสัตว์ป่าของรัฐเนวาด้า ในเดือนพฤษภาคม Steve Sisolak ผู้ว่าการรัฐเนวาดาลงนามในร่างกฎหมายห้ามนักล่าสัตว์นำซากกวางป่า กวางเอลค์ หรือกวางมูซเข้าสู่รัฐเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคนี้
ข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ CDC ระบุว่าโรคทำลายระบบประสาท ทำให้สัตว์ที่ติดเชื้อมีอาการเหมือนซอมบี้ เดินโซเซ น้ำลายไหลยืด ร่างกายซูบผอม บางทีมีอาการก้าวร้าวมากขึ้น และกลัวมนุษย์น้อยลง และว่าโรคนี้ติดต่อโดยการสัมผัสกับของเหลวจากร่างกายโดยตรง หรือจากการดื่มน้ำที่ปนเปื้อนด้วย และมักทำให้กวางที่ติดเชื้อต้องตายเป็นส่วนใหญ่
ในเดือนสิงหาคม CDC รายงานว่ามีกวางป่า กวางเอลค์ และกวางมูซที่ติดเชื้อใน 227 เขตการปกครองใน 24 รัฐ ส่วนใหญ่จะอยู่ในรัฐไวโอมิง โคโลราโด และแคนซัส
อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่โรคนี้จะถูกส่งผ่านไปยังมนุษย์ แต่ CDC ก็เตือนบรรดานักล่าสัตว์ว่าแม้ว่าจะต่างสายพันธุ์กัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้ปลอดภัยจากการติดเชื้อโรคนี้ 100% เต็ม
โรค Chronic wasting disease หรือโรค “กวางซอมบี้” นี้สามารถฟักตัวได้เป็นระยะเวลานานกว่าหนึ่งปีก่อนที่สัตว์เหล่านั้นจะแสดงอาการออกมา ดังนั้น CDC จึงแนะนำให้นักล่าสัตว์นำซากสัตว์ไปทดสอบก่อนที่จะบริโภค และหลีกเลี่ยงการกินเนื้อกวางที่ติดเชื้อ รวมทั้งการสวมใส่อุปกรณ์ที่เหมาะสมในขณะที่จัดการกับซากกวาง และลดเวลาที่ใช้ในการจัดการกับส่วนสมองและเนื้อเยื่อกระดูกสันหลังซึ่งเป็นต้นกำเนิดของโรคนี้ ก็อาจช่วยป้องกันการติดเชื้อโรคนี้ได้เช่นกัน