เจ้าหน้าที่ค้นหาประสบความสำเร็จในการดึงข้อมูลการบินเเละเสียงที่ถูกบันทึกจากห้องนักบินของเที่ยวบินของสายการบิน Yeti Airlines ซึ่งตกในวันอาทิตย์และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 69 ที่ประเทศเนปาลกลับมาใช้ประกอบการสืบสวนได้แล้ว ตามรายงานของเอพี
เที่ยวบินลำดังกล่าวมีผู้อยู่บนเครื่องทั้งหมด 72 คน และเจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้ยังไม่ถูกพบ 3 คนน่าจะเสียชีวิตแล้วเช่นกัน
จากานนาธ นิรอลา โฆษกของทางการเนปาล กล่าวว่า ข้อมูลบันทึกจากห้องนักบินจะถูกส่งไปยังเจ้าหน้าที่สอบสวน ขณะที่ เพมบา เชอร์ปา โฆษกของ Yeti Airlines ยืนยันการพบเสียงบันทึกและข้อมูลการบินเช่นกัน
ในเหตุการณ์ครั้งนี้ เครื่องบินลำดังกล่าวออกจากกรุงกาฐมาณฑุตกขณะบินเข้าใกล้สนามบินเมืองโพคารา ที่เพิ่งเปิดทำการได้เพียงสองสัปดาห์
Your browser doesn’t support HTML5
คืบหน้าเครื่องบินตกเนปาล พบข้อมูลเสียงจากห้องนักบิน
ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวกับเอพีว่า ลักษณะการบินของเครื่องบินลำนี้ซึ่งเป็นรุ่น ATR 72 ดูปกติเมื่อลดระดับความสูงลง โดยเหลือเพียงอีกไม่ถึงหนึ่งนาทีจะถึงที่หมาย แต่ต่อมาบินฉีกออกไปทางซ้ายอย่างรวดเร็วเเละตกลงในหุบเขาลึก 984 ฟุต
สภาพอากาศในตอนนั้น ไม่เเปรปรวนรุนเเรงและมีลมเพียงเล็กน้อย โดยจุดหมายที่เมืองโพคารานี้เป็นเเหล่งท่องเที่ยว เพราะอยู่ตีนเขาหิมาลัย
ในคืนวันจันทร์ ญาติและเพื่อน ๆ ของบุคคลที่อยู่บนเครื่อง เดินทางมาที่โรงพยาบาลท้องถิ่น และบางคนตะโกนเพื่อให้มีการเร่งตรวจชันสูตรศพ โดยหวังว่า จะสามารถจัดพิธีศพแก่บุคคลอันเป็นที่รักได้โดยเร็ว
ผู้ที่เจ้าหน้าที่สามารถระบุอัตลักษณ์ได้แล้ว 47 คน ในจำนวนนั้นมี ซานเจย์ จีสวาล เจ้าหน้าที่การตลาดบริษัทเวชภัณฑ์ที่บินมาโพคาราเพื่อเจอหน้าหลานสาวเเรกคลอด และนักบวชชาวพุทธ อรุณพอเดล วัย 47 อดีตนายตำรวจที่เดินทางมากับลูกสาว
Nepal Plane Crash
และในบรรดาผู้เสียชีวิตมีทารก 3 คน เด็ก 3 คน นักท่องเที่ยวต่างชาติจากอินเดีย 5 คน รัสเซีย 4 คน เกาหลีใต้ 2 คน ไอร์แลนด์ 1 คน ออสเตรเลีย 1 คน ฝรั่งเศส 1 คน และอาร์เจนตินาอีก 1 คน ตามรายงานของรอยเตอร์
เครื่องบินลำที่ตกเป็นรุ่น ATR 72-500 และตามประวัติในเว็บไซต์ flightradar24.com เครื่องบินมีอายุ 15 ปี
ส่วนเว็บไซต์ airfleets.net ระบุว่า เครื่องบินลำนี้เคยใช้บินให้กับสายการบิน Nok Air ของไทยและ Kingfisher Airlines ของอินเดีย ก่อนที่ Yeti Airlines จะซื้อไปเมื่อสี่ปีก่อน
บริษัทเครื่องบิน ATR ไม่ตอบกลับผู้สื่อข่าวเอพี เมื่อถูกขอให้เเสดงความเห็น
เหตุเครื่องบินตกในครั้งนี้นับเป็นเหตุเลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่ปี 1992 อ้างอิงจากฐานข้อมูลของเครือข่ายความปลอดภัยด้านการบิน ซึ่งในครั้งนั้น เครื่องบินแอร์บัส A300 จากสายการบิน Pakistan International Airlines ตกบริเวณไหล่เขาในกาฐมาณฑุ คร่าชีวิต 167 คนบนเที่ยวบินดังกล่าว ขณะที่ทางสหภาพยุโรป สั่งแบนสายการบินของเนปาลไม่ให้บินผ่านน่านฟ้าของกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปตั้งแต่ปี 2013 จากความกังวลด้านความปลอดภัย
นับตั้งแต่ปี 2000 มีผู้เสียชีวิตเกือบ 350 คนจากเหตุเครื่องบินตกหรือเฮลิคอปเตอร์ตกในเนปาล อันเป็นแหล่งรวมของเทือกเขาสูงสุดในโลก 8 แห่งจาก 14 แห่ง ซึ่งรวมถึงเทือกเขาเอเวอร์เรสต์ ที่สภาพอากาศแปรปรวนอย่างรวดเร็วและรุนแรงอาจเป็นอันตรายต่อการเดินทางได้
- ที่มา: เอพีและรอยเตอร์