ตึงเครียด! นาโต้จับตาท่าทีรัสเซียหลังเครื่องบินตุรกียิงเครื่องบินรบของรัสเซียตก

นาโต้จับตาท่าทีรัสเซียหลังเครื่องบินตุรกียิงเครื่องบินรบของรัสเซียตก

ผู้แทนประเทศพันธมิตรองค์การนาโต้ 28 ประเทศร่วมประชุมฉุกเฉินที่กรุงบรัสเซลส์ในวันอังคาร และเห็นพ้องกันให้ลดความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับตุรกี รวมทั้งลดความเสี่ยงของการกระทบกระทั่งกันทั้งในน่านฟ้าของซีเรียและตุรกี

เลขาธิการองค์การนาโต้ Jens Stoltenberg เรียกร้องให้เกิดความสงบ และขอให้มีการเจรจากันระหว่างรัฐบาลตุรกีกับรัสเซียเพื่อจัดการความตึงเครียด ตลอดจนหาแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก

เลขาธิการองค์การนาโต้ยังยืนยันว่านาโต้จะยืนเคียงข้างตุรกี และสนับสนุนการกระทำที่เป็นการปกป้องดินแดนของอธิปไตยของตุรกี

อย่างไรก็ตามแถลงการณ์ของนาโต้มิได้ระบุอย่างเจาะจงว่า สนับสนุนเหตุการณ์ที่เครื่องบินตุรกียิงเครื่องบินรบของรัสเซียตกในบริเวณพรมแดนของซีเรียติดกับตุรกี ในบริเวณหุบเขาทางเหนือของลาทาเกีย

Turkish President Recep Tayyip Erdogan speaks during a meeting at the presidential palace in Ankara, Turkey, Tuesday, Nov. 24, 2015.

ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น ที่เครื่องบินของประเทศสมาชิกองค์การนาโต้ยิงเครื่องบินรบของรัสเซียตก ก่อให้เกิดความกังวลว่ารัสเซียอาจมีคำสั่งให้ใช้การตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน กับเครื่องบินรบของตุรกีที่ร่วมกับสหรัฐฯและพันธมิตร โจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มรัฐอิสลามในซีเรียอยู่ในขณะนี้

เจ้าหน้าที่ทหารของอังกฤษผู้หนึ่งซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยชื่อชี้ว่า หากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนั้นขึ้นจริง ประเทศสมาชิกองค์การนาโต้จะถูกดึงเข้าไปร่วมในปฏิบัติการตอบโต้กันและกันระหว่างตุรกีกับรัสเซีย แต่ตนเชื่อว่ารัสเซียไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น และในที่สุดแล้วเมื่อกระบวนการทางการฑูตสิ้นสุดลง ตนเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องหาสูตรที่ลงตัวในการรักษาหน้าของทั้งรัสเซียและตุรกี

Russia's SU-24

ด้านนักวิเคราะห์และนักการฑูตหลายคนของยุโรประบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันอังคารเป็นเหตุการณ์ที่หลายฝ่ายกังวลตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการโจมตีกลุ่มรัฐอิสลามในซีเรีย เพราะปัจจุบันท้องฟ้าเหนือพรมแดนซีเรียติดกับตุรกีนั้น เต็มไปด้วยเครื่องบินรบของซีเรีย รัสเซีย ตุรกี และของประเทศพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ที่ต่างทยอยทิ้งระเบิดใส่กลุ่มรัฐอิสลามอย่างต่อเนื่อง

คุณ Jonathan Schanzer แห่ง Foundation for the Defense of Democracies ในกรุงวอชิงตันชี้ว่า การที่มีนักบินเสียชีวิตหนึ่งรายจากเหตุการณ์ในวันอังคาร อาจส่งให้ให้เกิดความมึนตึงระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก และอาจหมายถึงอุปสรรคต่อความพยายามของประธานาธิบดีฝรั่งเศส Francois Hollande ที่ต้องการให้สหรัฐฯและรัสเซียจับมือกันเพื่อต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ก่อการร้ายในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พ.ย

President Barack Obama and French President Francois Hollande participate in a news conference in the East Room of the White House in Washington, Tuesday, Nov. 24, 2015.

ในการประชุมฉุกเฉินขององค์การนาโต้ในวันนี้ ทางตุรกีได้แสดงข้อมูลเรดาร์ติดตามเครื่องบินรัสเซียลำที่ถูกยิงตก เพื่อพิสูจน์ว่าเครื่องบินลำนั้นล่วงล้ำเข้ามาในน่านฟ้าของตุรกี ซึ่งเป็นสิ่งที่รัสเซียยืนกรานปฏิเสธ โดยทางรัสเซียเองระบุว่าเครื่องบินรบ SU-24 ลำนี้ ไม่เคยบินออกจากน่านฟ้าของซีเรียเข้าไปในตุรกีดังที่ข้อมูลของทางการตุรกีกล่าวอ้าง

ที่ผ่านมาตุรกีได้เคยเตือนไปยังรัสเซียและซีเรียแล้วหลายครั้ง เรื่องที่มีเครื่องบินรบบินผ่านเข้ามาในเขตน่านฟ้าตุรกี โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ทางตุรกีแจ้งว่าเครื่องบิน F-16 สองลำของตุรกีได้สกัดกั้นเครื่องบินรบของรัสเซียหนึ่งลำที่ล่วงล้ำเข้ามาในตุรกี และองค์การนาโต้มีคำเตือนตามมาว่า การกระทำของเครื่องบินรบลำนั้นของรัสเซียเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้

สำหรับเหตุการณ์ล่าสุดนี้ นักวิเคราะห์ Jonathan Schanzer ชี้ว่าทั่วโลกกำลังจับตามองท่าทีของประธานาธิบดี Vladimir Putin

ซึ่งหากทางรัสเซียมองว่าเป็นปรปักษ์ต่อรัสเซียโดยตรง และตัดสินใจตอบโต้ตุรกีด้วยกำลังทหาร ทางนาโต้ก็คงจะต้องเข้าร่วมกับตุรกีในการทำสงครามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน

(ผู้สื่อข่าว Jamie Dettmer รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)