เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก กล่าวในวันจันทร์ว่า รัฐบาลต่าง ๆ ที่ส่งมอบความช่วยเหลือทางทหารให้ยูเครน ควรทบทวนข้อจำกัดการใช้อาวุธเพื่อโจมตีเป้าหมายทางทหารของกองทัพมอสโกในดินแดนรัสเซีย เพราะเงื่อนไขเช่นนั้นทำให้กองทัพเคียฟไม่สามารถปกป้องตนเองจากการรุกรานได้เต็มที่
ในระหว่างเยือนบัลแกเรียในวันจันทร์ สโตลเทนเบิร์ก กล่าวว่า การรุกรานยูเครนโดยรัสเซียที่เริ่มต้นขึ้นในปี 2022 คือการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และยูเครนก็มีสิทธิ์ที่จะปกป้องตนเอง และโจมตี “เป้าหมายอันชอบธรรมนอกยูเครน” ด้วย
เลขาฯ นาโต้ กล่าวด้วยว่า “เราเห็นภาพที่ว่าชัดเจนแจ่มแจ้งอย่างมากในเวลานี้จากการสู้รบในคาร์คิฟ” และว่า “กองกำลังรัสเซียตั้งอยู่ในดินแดนรัสเซียเพื่อทำการโจมตี จากบริเวณชายแดน เข้าใส่ยูเครน แนวหน้าการรบนั้นก็อยู่ที่แนวพรมแดนนั่นเอง และหากคุณไม่สามารถโจมตีกองกำลังรัสเซียที่อีกฝั่งหนึ่งของแนวหน้าการรบได้เพราะพวกเขายืนอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่ง และแน่นอนนั่นก็แปลว่า คุณได้ลดทอนความสามารถของกองกำลังยูเครนในการปกป้องตนเอง”
สโตลเทนเบิร์ก ยังย้ำด้วยว่า นาโต้นั้นไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร พร้อมกล่าวว่า พันธมิตรนาโต้เองมีสิทธิ์ที่จะช่วยยูเครนคงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการป้องกันตนเองด้วยการจัดหาการสนับสนุนทางทหารให้
จนท.กองทัพยูเครนปล่อยโดรนลาดตระเวนออกจากเขตปกครองซาปอริซห์เชีย เมื่อ 26 พ.ค. 2567
ความเห็นของเลขาธิการนาโต้นี้มีออกมาไม่กี่ชั่วโมงหลังประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เรียกร้องหุ้นส่วนของยูเครนให้ “สนับสนุนการชิงปกป้องตนเองจากเหล่าผู้ก่อการร้ายรัสเซีย” ซึ่งเป็นคำพูดที่อ้างถึงนโยบายของประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐฯ ที่ห้ามไม่ให้ยูเครนใช้อาวุธที่ตนมอบให้ในการโจมตีเป้าหมายที่ตั้งอยู่ภายในดินแดนของรัสเซีย
เซเลนสกี กล่าวว่า “การป้องกันแบบหนึ่งที่จะช่วยจัดการกับเหล่าผู้ก่อการร้ายที่จะถูกยิงถล่มและทำลายก่อนที่พวกเขาจะเริ่มทำร้ายชีวิตผู้คน” และว่า “เราเห็นได้ชัดเจนว่าทหารรัสเซียกระจุกตัวอยู่ที่จุดใดบ้าง เรารู้จักพื้นที่ทั้งหมดที่ขีปนาวุธของรัสเซียถูกปล่อยออกมาและที่ ๆ เครื่องบินรบขึ้นบินด้วย”
นักเคลื่อนไหวชาวยูเครนรวมตัวกันที่หน้าสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเคียฟ เพื่อเรียกร้องให้กรุงวอชิงตันยกเลิกข้อจำกัดการใช้ความช่วยเหลือทางทหารในการโจมตีเข้าไปในเขตแดนของรัสเซีย (Reuters)
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทางภาคตะวันตกของรัสเซียเปิดเผยในวันจันทร์ว่า ยูเครนส่งโดรนเข้ามาโจมตีสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 รายและบาดเจ็บอีก 3 คน
กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวด้วยว่า ระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศของตนทำลายโดรนยูเครน 6 ลำที่ถูกส่งเข้ามาในแคว้นโอร์โยล และ 4 ลำที่พุ่งไปยังแคว้นคราสโนดาร์ และ 1 ลำที่บินไปเหนือแคว้นเบลโกรอดและแคว้นบรีแยงสก์
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์