องค์การอวกาศสหรัฐฯ หรือ นาซ่า (NASA) ประกาศเลื่อนแผนทดสอบปล่อยจรวดลำใหม่บรรทุกแคปซูลสำรวจดวงจันทร์ จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐฯ สืบเนื่องปัญหาเชื้อเพลิงรั่วและอุปสรรคในการทำให้เครื่องยนต์ตัวหนึ่งเย็นลงจนได้อุณหภูมิที่เหมาะสม
ทางนาซ่ายืนยันว่า หากสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้ การทดสอบปล่อยจรวดอาจมีขึ้นในวันศุกร์นี้
บิล เนลสัน เจ้าหน้าที่ของนาซ่า แถลงว่า "เราจะยังไม่ส่งจรวดขึ้นไปจนกว่าจะแน่ใจ" และว่า "นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า การปล่อยจรวดลำนี้ซับซ้อนขนาดไหน" ปัญหาทั้งหมดต้องได้รับการแก้ไขอย่างไม่มีข้อผิดพลาดจึงจะปล่อยจรวดขึ้นไปได้
วิศวกรของนาซ่าไม่สามารถทำให้เครื่องยนต์ตัวหนึ่งของจรวดลำนี้เย็นลงถึงระดับอุณภูมิที่ต้องการ ผ่านกระบวนการอัดไฮโดรเจนเหลวเย็นจัดระดับ -217 องศาเซลเซียสเข้าไปในเครื่องยนต์ตัวนั้น รวมทั้งวิธีอื่น ๆ ซึ่งล้วนไม่ได้ผลเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ของนาซ่าต้องรับมือกับความล่าช้าเนื่องจากพายุฝนฟ้าคะนองพาดผ่านใกล้กับแท่นปล่อยจรวดที่ศูนย์อวกาศเคนเนดีในรัฐฟลอริดา รวมทั้งพบเชื้อเพลิงรั่วขณะสำรวจความพร้อมด้วย
SEE ALSO: ‘นาซ่า’ ย้ำ เดินหน้าแผนส่งจรวดไปดวงจันทร์ แม้เกิดเหตุสายฟ้าฟาดที่แท่นส่งจรวด Space Launch System (SLS) น้ำหนัก 2.6 ล้านกิโลกรัม ความสูง 98 เมตรหรือเท่าตึก 32 ชั้น ใช้เวลาพัฒนานานกว่า 10 ปี โดยจะใช้บรรจุแคปซูล โอไรออน (Orion) ซึ่งบรรทุกทีมนักบินอวกาศที่จะขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์รอบใหม่ภายใต้โครงการ อาร์เตมิส (Artemis) ของนาซ่า
ตามกำหนดการเดิมนั้น นาซ่าจะส่งจรวด SLS ขึ้นไปในอวกาศในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ จากนั้นปล่อยแคปซูลโอไรออนแบบไม่มีนักบินไปวนรอบดวงจันทร์แล้วกลับสู่พื้นโลกในอีก 42 วันต่อมาในโครงการที่ชื่อว่า อาร์เตมิส วัน (Artemis I)
เจ้าหน้าที่ของนาซ่าระบุว่า โครงการ Artemis I จะเป็นการรวบรวมข้อมูลสำคัญต่าง ๆ และวิเคราะห์ศักยภาพของยานอวกาศก่อนที่จะเริ่มโครงการ Artemis 2 ซึ่งเป็นการส่งมนุษย์ขึ้นไปวนรอบดวงจันทร์ และโครงการ Artemis 3 คือการส่งมนุษย์ไปลงบนพื้นผิวดวงจันทร์อีกครั้ง
นาซ่าตั้งเป้าว่า จะสามารถนำสตรีคนแรกและคนผิวสีคนแรกไปสัมผัสพื้นผิวดวงจันทร์ก่อนสิ้นทศวรรษนี้ รวมทั้งเตรียมการสำหรับก่อตั้งอาณานิคมของมนุษย์บนดวงจันทร์หลังจากนั้น ตลอดจนเตรียมโครงการสำรวจดาวอังคารในอนาคต ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับผลของการทดสอบยิงจรวด SLS ในครั้งนี้
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์