Your browser doesn’t support HTML5
ถือเป็นฤดูกาลแห่งภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เสียจริงๆ เมื่อมีภาพยนตร์แฟรนไชส์หลายเรื่องทยอยฉายเรียกเงินในกระเป๋าคนดูแบบทุกสัปดาห์ เช่นเดียวกับแฟรนไชส์ไดโนเสาร์ Jurassic World ที่สร้างความสำเร็จอย่างถล่มทลายเมื่อ 3 ปีก่อน
Jurassic World: Fallen Kingdom ว่าด้วยภารกิจของ นิค โอเวน (คริส แพรตต์) และแคลร์ (ไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด) ที่ต้องร่วมมือกันในการช่วยเหลือไดโนเสาร์ที่กำลังจะตายจากภูเขาไฟบนเกาะ จูราสสิค เวิลด์ ที่กำลังปะทุ หลังจากสวนสนุกและรีสอร์ทหรูถูกทำลาย
ทว่าภารกิจนี้กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อการช่วยเหลือไดโนเสาร์กลับกลายเป็นการนำไดโนเสาร์เหล่านี้มาเป็นสินค้า เพื่อขายให้กับชาติมหาอำนาจ ที่ต้องการจะใช้พวกมันเป็นอาวุธสงคราม แถมยังต้องรับมือกับไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ “อินโดแรพเตอร์” ที่ดุ โหด และฉลาดเป็นกรดเสียด้วย
สองพระนางเคมีเข้ากันเหมือนเคย ขณะที่นักแสดงหน้าใหม่อีกหลายคนยังไม่ดึงดูดเท่าไหร่นัก อาจเป็นเพราะบทไปทุ่มให้กับการไล่ล่าของไดโนเสาร์ซึ่งเป็นจุดขายของแฟรนไชส์ Jurassic อยู่แล้ว ส่วนซีนกินใจทำได้ไม่ค่อยดีนักสำหรับมุมมองผู้วิจารณ์
สำหรับสิ่งที่ได้รับจากการชมภาพยนตร์ คือ สิทธิในการมีชีวิตอยู่ เพราะการปลุกชีพไดโนเสาร์ซึ่งเคยเป็นจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารมาในยุคดึกดำบรรพ์นั้น อาจแลกมาด้วยสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ทำได้น่าสนใจว่า จริงๆแล้ว อาณาจักรที่ล่มสลาย ไม่ใช่ไดโนเสาร์ที่กำลังจะสูญพันธุ์ แต่เป็นมวลมนุษยชาติที่กำลังถูกไดโนเสาร์เรียกคืนพื้นที่ของโลกใบนี้ต่างหาก