คุยหนัง "Finding Dory" ภาคต่อของ Finding Nemo กับการผจญภัยตามหาพ่อแม่ของปลาดอรี่ขี้ลืม

This film image released by Disney Pixar shows the character Dory, voiced by Ellen DeGeneres. The character, first introduced in "Finding Nemo," returns for the sequel, "Finding Dory," set for release on June 17, 2016. (AP Photo/Disney Pixar)

หนังให้ข้อคิดหลายอย่างสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นผู้ทุพพลภาพ การกักขังสัตว์น้ำ หรือการเลี้ยงลูกแบบปกป้องมากเกินไป

"Finding Dory" ออกฉายหลังจาก Finding Nemo สร้างความประทับใจมาแล้วเมื่อ 13 ปีก่อน โดยได้ผู้กำกับและเขียนบทหน้าเดิม Andrew Stanton และผู้ให้เสียงคนเดิม รวมทั้ง Ellen DeGeneres ผู้ให้เสียงปลาดอรี่สีน้ำเงิน ตัวเอกของภาคนี้

หลังจากที่ ดอรี่ ปลาขี้ลืม ช่วยปลาการ์ตูน มาริน ตามหาลูกที่ฝั่งหนึ่งของมหาสมุทรได้สำเร็จเมื่อภาคที่แล้ว 6 เดือนต่อมา ดอรี่มักฝันถึงพ่อแม่ของตัวเอง และเริ่มมีความจำลางๆ ขึ้นมาว่าตัวเองก็มีพ่อแม่ที่พลัดพรากจากกันไปนาน

ดอรี่ตั้งมั่นจะต้องตามหาพ่อแม่ให้ได้ โดยอาศัยความจำที่วูบกลับไปกลับมาเป็นตัวนำทาง ด้วยความช่วยเหลือจากปลาการ์ตูนพ่อ-ลูก (มารินและนีโม่) และเต่าทะเลหน้าเดิม ดอรี่เดินทางมาถึงสถานพิทักษ์สัตว์น้ำแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดอรี่คุ้นว่าเป็นบ้านของตังเอง ถึงกระนั้นทั้งหมดยังมีการผจญภัยครั้งใหญ่รออยู่ที่นั่น

โจทย์ท้าทายของ Finding Dory คือการทำภาคต่อจากหนังที่สมบูรณ์ในตัวเองอยู่แล้วอย่าง Finding Nemo ให้ออกมาสนุกสนานไม่แพ้ภาคแรก โดยต้องไม่ทำให้คนดูรู้สึกว่าซ้ำซ้อนกับ Finding Nemo

ภาคนี้จึงมีตัวละครหน้าใหม่เพิ่มมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฉลามวาฬ ปลาวาฬเบลูก้า และปลาหมึกยักษ์ที่สามารถพรางสีตัวเองตามสภาพแวดล้อมได้

หนังให้ข้อคิดหลายอย่างสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นผู้ทุพพลภาพ การกักขังสัตว์น้ำ หรือการเลี้ยงลูกแบบปกป้องมากเกินไป

ถือเป็นหนังครอบครัวที่เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะจูงลูกๆ เข้าไปนัั่งหาความบันเทิงแฝงสาระร่วมกัน

Your browser doesn’t support HTML5

คุยหนัง Finding Dory

(รับฟังคลิปคุยหนัง Finding Dory จากรายการสุดสัปดาห์กับวีโอเอ จาก นิตยา มาพึ่งพงศ์ และ ทรงพจน์ สุภาผล)