เหตุระเบิดรุนเเรงในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานในช่วงบ่ายวันจันทร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 61 ราย และมีผู้บาดเจ็บไม่น้อยกว่า 150 คน
ตำรวจปากีสถานระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ที่เมืองเปชวาร์เป็นฝีมือของมือระเบิดพลีชีพ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสรายหนึ่งยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตกับผู้สื่อข่าววีโอเอ และกล่าวว่า ตนมีความกลัวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังมีผู้ที่ยังหาตัวไม่พบและมีร่างผู้เสียชีวิตที่ยังไม่มีการระบุตัวด้วย
เจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายความมั่นคง ชาฟิอูลลา คาน เปิดเผยด้วยว่า พบผู้รอดชีวิต 2 คนจากซากปรักหักพังในที่เกิดเหตุ
ผู้รอดชีวิตรายหนึ่ง ซึ่งเป็นนายตำรวจที่ชื่อ มีนา กูล กล่าวว่า เขาอยู่ในมัสยิดขณะที่ร่วมสวดมนต์กับคนอื่นๆ เมื่อเกิดการระเบิด และเขาไม่ทราบว่า เหตุใดตนเองรอดชีวิตออกมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ได้ยินผู้คนร้องเสียงดังหลังเกิดการระเบิด
เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลในเมืองยืนยันด้วยว่า มีการส่งผู้บาดเจ็บนับสิบคนมารับการรักษา โดยอาการของหลายคนนั้นจัดว่าอยู่ใน “ขั้นรุนแรง”
รายงานข่าวระบุว่า เหยื่อส่วนใหญ่นั้นเป็นสมาชิกในกองกำลังตำรวจของแคว้นไคเบอร์ ปัคตุนควา และมัสยิดที่เกิดเหตุนี้เป็นสถานที่ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลและผู้ที่ทำงานฝ่ายความมั่นคงเดินทางมาบ่อยครั้ง
แถลงการณ์ของรัฐบาลกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ชาห์บาส ชารีฟ "ได้ประณามการระเบิดฆ่าตัวตายที่มัสยิด" ในเมืองเปชวาร์ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า กำลังสืบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่ ขณะที่ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดโดยทันที
ขณะเดียวกัน อดีตนายกฯ อิมราน ข่าน ซึ่งเป็นผู้นำพรรคฝ่ายค้านหลักของปากีสถาน บอกผ่านทวิตเตอร์ว่า ตนขอประณามเหตุการณ์ "ก่อการร้ายแบบฆ่าตัวตาย" ในครั้งนี้เช่นกัน และว่า “เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องพัฒนงานด้านการหาข้อมูลข่าวกรองและการทำให้กองกำลังตำรวจของเรามีความพร้อมในการรับมือกับภัยคุกคามการก่อการร้ายที่เพิ่มมากขึ้น”
ทั้งนี้ แคว้นไคเบอร์ ปัคตุนควา ที่เป็นสถานที่เกิดเหตุ ตั้งอยู่ที่ชายเเดนระหว่างปากีสถานและอัฟกานิสถาน และเคยประสบเหตุก่อการร้ายหลายครั้งในช่วงไม่นานนี้ โดยความรุนเเรงที่เกิดขึ้นในอดีตมักมีกลุ่ม "ตาลีบันแห่งปากีสถาน" (Tehrik-i-Taliban Pakistan) เป็นผู้อ้างความรับผิดชอบ
แต่ในแถลงการณ์ที่ ตาลีบันแห่งปากีสถาน ส่งให้กับสื่อต่าง ๆ ซึ่งรวมทั้ง วีโอเอ ด้วย ระบุว่า ทางกลุ่มไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุโจมตีรุนแรงในวันจันทร์นี้
- ที่มา: วีโอเอ