'มูดีส์' ลดภาพรวมเครดิตจีน อ้างขยายตัวต่ำ-ภาคอสังหาฯ เสี่ยงสูง

แฟ้มภาพ - อาคารที่ทำการธนาคารกลางจีนที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2565

บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน มูดีส์ (Moody's) ปรับลดการคาดการณ์ภาพรวมความน่าเชื่อถือทางการเงินของรัฐบาลจีนลงจากระดับคงที่เป็นติดลบ ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดว่า กำลังเกิดความกังวลไปทั่วโลกเกี่ยวกับผลกระทบของหนี้ในรัฐบาลส่วนท้องถิ่นของจีน และวิกฤตในตลาดอสังหาริมทรัพย์

แถลงการณ์ของมูดีส์ในวันอังคารระบุว่า การปรับลดระดับภาพรวมครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลจีนจำเป็นต้องใช้มาตรการสนับสนุนด้านการเงินต่อรัฐบาลส่วนท้องถิ่นและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลในวงกว้างต่อความเข้มแข็งทางการคลังและเศรษฐกิจของจีน

"นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในส่วนที่เกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะกลางที่อาจลดลงอย่างต่อเนื่อง และการหดตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้" มูดีส์กล่าว

หุ้นของบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งของจีนลดลงอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปีหลังจากข่าวนี้ สืบเนื่องจากความกังวลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน

SEE ALSO: สังเกตท่าทีจีน 'ขยับทีละนิด' เพื่อเปิดกว้างทางเศรษฐกิจหลังการประชุมเอปค

เคน เจียง นักวิเคราะห์แห่งธนาคาร Mizuho ในฮ่องกง กล่าวว่า "เวลานี้ตลาดกำลังกังวลมากขึ้นต่อวิกฤตอสังริมทรัพย์และการขยายตัวที่อ่อนแอของเศรษฐกิจจีน มากกว่าความเสี่ยงของหนี้ภาครัฐในระยะสั้น"

การปรับลดภาพรวมโดยมูดีส์ครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกที่มีต่อจีน นับตั้งแต่มีการปรับลดระดับความน่าเชื่อถือลงไปหนึ่งจุดอยู่ที่ระดับ A1 เมื่อปี 2017 จากเหตุผลเรื่องความเสี่ยงของหนี้ภาครัฐและการชะลอตัวของเศรษฐกิจเช่นกัน

มูดีส์ยังคาดการณ์ด้วยว่า มูลค่าผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของจีนจะขยายตัวลดลงไปอยู่ที่ระดับ 4.0% ในปี 2024 และ 2025 รวมทั้งจะลดลงไปอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 3.8% ระหว่างปี 2026 - 2030

ปัญหาเชิงโครงสร้าง

การปรับลดภาพรวมความน่าเชื่อถือของเศรษฐกิจจีนครั้งนี้มีขึ้นก่อนการประชุมประจำปีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจส่วนกลางของรัฐบาลปักกิ่ง ที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงกลางเดือนธันวาคม โดยบรรดาที่ปรึกษาของรัฐบาลต่างขอให้มีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มการเติบโตอย่างคงที่ในปีหน้า

กระทรวงการคลังของจีนมีแถลงการณ์แสดงความผิดหวังต่อการตัดสินใจล่าสุดของมูดีส์ พร้อมยืนยันว่า เศรษฐกิจจีนจะสามารถฟื้นตัวและรักษาแนวโน้มการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และความเสี่ยงในตลาดอสังหาฯ และหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นนั้นเป็นสิ่งที่สามารถควบคุมได้

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนนั้นน่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ระดับ 5% ได้ในปีนี้ แม้จะเป็นการเทียบกับปี 2022 ที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมากเพราะการระบาดของโควิด-19 และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่สม่ำเสมอก็ตาม

ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งหลังการระบาด เนื่องจากปัญหาในตลาดที่อยู่อาศัย ความกังวลเรื่องปัญหาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น การขยายตัวที่ลดลงของเศรษฐกิจโลก และความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ

ในขณะที่มาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลนำมาใช้กลับไม่เห็นผลเท่าที่ควร ซึ่งยิ่งสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลกลางให้ใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างจากเศรษฐกิจแบบพึ่งพาการลงทุนไปเป็นการบริโภคภายในประเทศด้วย

  • ที่มา: รอยเตอร์