กลุ่มผู้อพยพจากอเมริกากลาง 150 คน ยังคงปักหลักอยู่ที่บริเวณพรมแดนสหรัฐฯ ติดกับเม็กซิโก หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจชายแดนของสหรัฐฯ ระบุว่า จุดผ่านแดนไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับให้ผู้อพยพเข้าพัก
ขบวนคาราวานผู้อพยพซึ่งพยายามขอลี้ภัยในสหรัฐฯ ตั้งค่ายพักแรกด้านนอกอาคารจุดผ่านแดน ที่เมืองติฮัวน่า (Tijuana) ของเม็กซิโก ขณะที่มีผู้อพยพบางส่วนเข้าไปอาศัยอยู่ในอาคารดังกล่าว
ยังไม่แน่ชัดว่าผู้อพยพเหล่านั้นต้องค้างแรมอยู่ที่จุดผ่านแดนนั้นนานแค่ไหน และจะได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ให้เข้าประเทศหรือไม่
ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในวันจันทร์ ยืนยันว่าสหรัฐฯ จำเป็นต้องมีกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโก และว่ากฎหมายคนเข้าเมืองที่สหรัฐฯ ใช้อยู่ในปัจจุบัน ถือเป็น "หายนะ" และ "โง่เขลา" จนต้องถูกหัวเราะเยาะ
ผู้อพยพจำนวนมากเป็นผู้หญิงและเด็ก ซึ่งลี้ภัยมาจากหลายประเทศในแถบอเมริกากลาง รวมทั้ง ฮอนดูรัส กัวเตมาลา และ เอลซัลวาดอร์ ซึ่งเดินทางเป็นขบวนคาราวานผ่านเม็กซิโกมาตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม
ปธน.ทรัมป์ มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รักษาพรมแดนจับตามองคาราวานกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด โดยระบุว่าอาจเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ ได้ นอกจากนี้ยังได้ส่งกองกำลังเนชั่นแนลการ์ด (National Guard) หลายร้อยคนไปยังแนวพรมแดนเพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้อพยพเล็ดลอดเข้าประเทศด้วย