สำนักข่าวรอยเตอรส์รายงานว่าบริษัทไมโครซอฟท์ของสหรัฐฯจะให้ความร่วมมือกับรัฐวอชิงตันในการฟ้องรัฐบาลกลางเรื่องคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ห้ามคนบางประเทศเข้าอเมริกา
ไมโครซอฟท์กล่าวกับรอยเตอรส์ว่าจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบจากคำสั่งฝ่ายบริหารครั้งนี้
โฆษกของไมโครซอฟท์ Pete Wootton กล่าวว่าบริษัทยินดีที่จะให้ข้อมูลอื่นๆถ้าจำเป็นในการสนับสนุนความพยายามของเจ้าหน้าที่ฝ่ายอัยการของมลรัฐวอชิงตันในการฟ้องร้องรัฐบาลกลางในครั้งนี้
ประชาชนของ 7 ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งดังกล่าวประกอบด้วย อิหร่าน อิรัก ซูดาน ซีเรีย ลิเบีย เยเม็น และโซมาเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนามุสลิมและถูกระบุว่าเป็นแหล่งพักพิงผู้ก่อการร้าย
ก่อนหน้านี้ผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งแสดงความกังวลหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ออกคำสั่งฝ่ายบริหารห้ามประชาชนจากประเทศมุสลิม 7 แห่งเข้าอเมริกาชั่วคราว
ซีอีโอของ Apple ทิม คุกกล่าวว่าถึงเวลาที่ควรมีการจับมือกันเพื่อปกป้องค่านิยมอเมริกันเรื่องเสรีภาพและโอกาสในชีวิต
ส่วนมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กแห่ง Facebook กล่าวว่าตนมีความเป็นกังวลต่อคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์และแสดงการสนับสนุนคนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาสหรัฐฯ
และไบรอั้น เชสกี้ผู้ก่อตั้ง Airbnb บริษัทที่เชื่อมต่อผู้จองห้องพักและเจ้าของห้องออนไลน์ บอกว่ากฎฝ่ายบริหารของทรัมป์ครั้งนี้ขาดศีลธรรมและไม่เป็นไปตามค่านิยมอเมริกัน