เมื่อวันศุกร์ แม็คโดนัลด์ (McDonald’s) บริษัทแฟรนไชส์ร้านเบอร์เกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระบุว่า ข้อมูลของบริษัทที่รั่วไหลในเกาหลีใต้และไต้หวันทำให้รายละเอียดบางส่วนของพนักงานและลูกค้าหลุดออกไป โดยแม็คโดนัลด์ถือเป็นบริษัทระดับโลกรายล่าสุดที่ถูกอาชญากรไซเบอร์โจมตี ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
บริษัทอาหารจานด่วนชื่อดังระบุว่า อาชญากรเข้าถึงอีเมล เบอร์โทรศัพท์และที่อยู่จัดส่ง แต่ไม่ได้เข้าถึงข้อมูลการชำระสินค้าของลูกค้า
รายละเอียดของเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลในสองประเทศนี้ สืบเนื่องมาจากการสืบสวนโดยบริษัทให้คำปรึกษา หลังพบว่ามีการทำกิจกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาตบนเครือข่ายของบริษัท
แม็คโดนัลด์ระบุในแถลงการณ์ว่า ทางบริษัทปิดช่องทางการเข้าถึงข้อมูลโดยเร็วหลังรับทราบเหตุการณ์แล้ว โดยการสืบสวนของบริษัทเผยว่า อาชญากรเข้าถึงแฟ้มข้อมูลจำนวนไม่มาก โดยแฟ้มข้อมูลบางส่วนมีข้อมูลส่วนตัวอยู่ บริษัทยังระบุด้วยว่าจะดำเนินการแจ้งหน่วยงานกำกับดูแลและลูกค้าที่มีรายชื่อในแฟ้มข้อมูลดังกล่าวต่อไป
เหตุการณ์ที่อาชญากรไซเบอร์โจมตีโรงพยาบาลและบริษัทระดับโลกครั้งล่าสุดนี้ มีทั้งการโจมตีเจบีเอส (JBS) บริษัทแปรรูปเนื้อสัตว์ และโคโลเนียล ไปป์ไลน์ (Colonial Pipeline) บริษัทระบบท่อส่งน้ำมัน ทำให้ทางบริษัทเดินเครื่องท่อส่งไม่ได้หลายชั่วโมง จนทำให้เกิดความกังวลว่าอาจเกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ
บริษัทส่วนหนึ่งต้องยอมจ่ายค่าไถ่เพื่อให้กลับมาควบคุมการทำงานของระบบบริษัทได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ทางแม็คโดนัลด์ระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ส่งผลต่อการทำงานรายวันของบริษัท และไม่มีการจ่ายค่าไถ่แต่อย่างใด
แม็คโดนัลด์ยังระบุด้วยว่า จะนำผลการสืบสวนไปใช้เพื่อพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทต่อไป
