นักช้อปอเมริกันจับจ่ายออนไลน์มากขึ้นกว่าไปซื้อสินค้าในร้านค้าปลีกในปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่การช้อปปิ้งช่วงเทศกาลสั้นที่สุดในรอบ 6 ปี ดันยอดช้อปออนไลน์พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตามการเปิดเผยของมาสเตอร์การ์ด
ข้อมูลจากมาสเตอร์การ์ด ระบุว่า ยอดขายของธุรกิจอีคอมเมิร์ซปีนี้ เพิ่มขึ้น 18.8% จากปีก่อน และยอดจับจ่ายในธุรกิจค้าปลีกโดยรวมที่ไม่รวมยอดขายยานยนต์ เพิ่มขึ้นเพียง 3.4%
ขณะที่ยอดขายในห้างสรรพสินค้าลดลง 1.8% แต่ยอดขายสินค้าบนเว็บไซต์และช่องทางออนไลน์ของห้างสรรพสินค้ากลับเพิ่มขึ้น 6.9% สะท้อนพฤติกรรมการซื้อสินค้าช่วงเทศกาล ที่ผู้บริโภคเลือกช้อปออนไลน์และเดินทางไปรับสินค้าในห้างมากขึ้น
สตีฟ ซาโดฟ ที่ปรึกษาอาวุโสของมาสเตอร์การ์ด บอกว่า การช้อปปิ้งช่วงเทศกาลเป็นช่วงเวลาสำคัญของธุรกิจค้าปลีก และสร้างยอดขายได้ถึง 40% ของรายได้ทั้งปี แต่ในปีนี้ระยะเวลาในการจับจ่ายซื้อของขวัญช่วงเทศกาล กล่าวคือ 1 วันหลังจากวันขอบคุณพระเจ้าจนถึงวันคริสต์มาสปีนี้ มีช่วงเวลาให้ช้อปน้อยลงกว่าปกติถึง 6 วัน ธุรกิจค้าปลีกจึงต้องปรับตัวด้วยการจัดโปรโมชั่นทั้งหน้าร้านและออนไลน์ควบคู่กันไปเพื่อดันยอดขายส่งท้ายปี
อเมริกาเคยเผชิญกับช่วงเวลาการช้อปช่วงเทศกาลที่สั้นกว่าปกติมาแล้ว เมื่อปี ค.ศ. 2013 ทำให้ลูกค้าได้รับสินค้าไม่ทันวันคริสต์มาส ผู้ประกอบการจึงต้องปรับกลยุทธ์ด้วยการลงทุนกับบริการส่งสินค้าภายในวันเดียว เพิ่มล็อคเกอร์รับสินค้า และเพิ่มการตลาดออนไลน์ เพื่อดึงดูดลูกค้าในสัปดาห์แห่งการจับจ่ายช่วงเทศกาลที่สั้นลงในปีนี้