ดำเนินคดีเจ้าของร้านดังมาเลเซีย ปมขายถุงเท้าลาย ‘อัลเลาะห์’

สามี-ภรรยาเจ้าของเครือข่ายร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงชื่อดังในมาเลเซีย รวมถึงบริษัทผู้จัดส่งสินค้า ถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหาดูหมิ่นความเชื่อของชาวมุสลิม หลังพบว่าร้านวางขายถุงเท้าที่มีคำว่า ‘อัลเลาะห์’ ตามการรายงานของเอพี

ไช คี คาน ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทเคเคมาร์ทกรุ๊ป แบรนด์ร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่อันดับสองของมาเลเซีย และโล เซียว มุย ภรรยาที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการบริษัท ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุว่า เป็นความผิดของบริษัทจัดส่ง ที่นำสินค้าที่บริษัทไม่ต้องการมาให้

ศาสนาเป็นประเด็นที่อ่อนไหวในประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีประชากรจำนวน 2 ใน 3 นับถือศาสนาอิสลาม และคำว่าอัลเลาะห์ หรือ อัลลอฮ์ คือพระนามของพระเจ้าผู้สร้างโลกในภาษาอารบิก

ในช่วงเดือนมีนาคม โมฮัมหมัด นาอิม มอคห์ตาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนาของมาเลเซีย กล่าวกับสื่อเบอร์นามา ของทางการมาเลเซียว่า “คำว่า ‘อัลเลาะห์’ ได้รับการเชิดชูอย่างสูงในสายตาของมุสลิม” และการนำพระนามของผู้สร้างมาอยู่ที่เท้า ถือเป็นพฤติการณ์แห่งการดูหมิ่น

ซิน เจียน ชาง ผู้ก่อตั้งบริษัทจัดส่งสินค้าถุงเท้าดังกล่าว รวมถึงภรรยาและลูกสาวที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ถูกตั้งข้อกล่าวหาเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด โดยซิน เจียน ชาง กล่าวว่า ถุงเท้านั้นเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าล็อตใหญ่ที่นำเข้ามาจากประเทศจีน และขออภัยที่บริษัทไม่ได้ตรวจสอบสินค้าให้ดี

หากมีความผิดตามข้อกล่าวหา จำเลยทั้งห้าคนอาจได้รับโทษจำคุกสูงสุดหนึ่งปี ปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ซิน เจียน ชาง ยังถูกผู้ก่อตั้ง บ.เคเคมาร์ท ฟ้องในข้อหาสร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของบริษัท โดยระบุว่า เคเคมาร์ทไม่เคยตกลงว่าจะสั่งซื้อถุงเท้านั้น โดยถุงเท้าที่เป็นประเด็นปรากฏอยู่ที่จุดจำหน่ายสินค้าที่ซิน เจียน ชาง เช่าไว้ และมีเพียง 14 คู่ในร้านเคเคมาร์ทสามแห่งเท่านั้น

อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เรียกร้องให้สาธารณะก้าวข้ามประเด็นนี้ และไม่พูดถึงเรื่องดังกล่าวมากจนเกินไป ด้านสุลต่านอิบราฮิม อิสกันดาร์ กษัตริย์มาเลเซียพระองค์ใหม่ เตือนว่า ประเด็นนี้อาจกระทบกับความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทางเชื้อชาติในประเทศที่ประชากรส่วนมากมีเชื้อสายมาเลย์ และรองลงมามีเชื้อสายจีนและอินเดีย

เอพีรายงานด้วยว่า ประเด็นถุงเท้าที่ลุกลามเป็นวิกฤต ทำให้ บ.เคเคมาร์ทซึ่งมีสาขา 810 แห่งทั่วประเทศ และมีกิจการที่อินเดียและเนปาล ต้องยกเลิกแผนนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วด้วย

• ที่มา: เอพี