อุทกภัยครั้งใหญ่ในมาเลเซียคร่าชีวิตผู้คนนับสิบ-ส่งผลให้ประชาชนกว่า 70,000 พลัดถิ่น

Malaysia Floods

กองทัพมาเลเซียเร่งแจกจ่ายความช่วยเหลือให้กับประชาชนที่ติดอยู่ภายในบ้านของตนหลังเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 14 ราย และมีผู้คนกว่า 70,000 คนกลายมาเป็นผู้พลัดถิ่น

ภาวะฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในมาเลเซียนำมาซึ่งปัญหาน้ำท่วมรุนแรงหนักที่สุดในรอบหลายปีตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีพื้นที่เมืองและหมู่บ้านหลายแห่งต้องจมอยู่ใต้บาดาล ขณะที่ถนนหลักหลายสายถูกตัดขาดไปด้วย

Malaysia Flood

หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดก็คือ รัฐสลังงอร์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดและร่ำรวยที่สุด ที่ตั้งอยู่รอบๆ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยเมืองชาห์อาลัม ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐยังคงจมบาดาลอยู่ในวันอังคาร และเจ้าหน้าที่กองทัพได้นำเรือออกตระเวนแจกจ่ายอาหารให้กับประชาชนที่ยังติดอยู่ในบ้านเรือนของตนและที่อพยพมาอยู่ในที่หลบภัยที่รัฐจัดให้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเริ่มออกมาแสดงความไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยหลายคนวิจารณ์ว่า รัฐบาลทำการต่างๆ ช้าเกินไปและไม่เพียงพอต่อการรับมือกับสถานการณ์ครั้งนี้

ฟูเซียห์ ซัลเละห์ ส.ส.ฝ่ายค้าน กล่าวว่า วิธีการรับมือภาวะอุทกภัยของทางการนั้นดู “สิ้นหวัง” และ “ไร้ความสามารถ” พร้อมกับบอกกับผู้สื่อข่าว เอเอฟพี ว่า “ไม่มีการออกคำเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับภาวะฝนตกหนัก” และ “เป็นเรื่องน่าเศร้ามากที่ต้องมีผู้สูญเสียชีวิตไป”

ทั้งนี้ นักการเมืองฝ่ายค้านยังกล่าวหารัฐบาลว่า เพิกเฉยต่อคำร้องขอให้มีการเตรียมการรับมือฤดูมรสุม ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์หน้า ด้วยการปรับปรุงระบบระบายน้ำในพื้นที่เมืองซึ่งมีประชากรอยู่อย่างหนาแน่น

และขณะที่ผู้ประสบภัยบางส่วนได้ย้ายมาอยู่ที่ศูนย์หลบภัยของรัฐ เจ้าหน้าที่เตือนว่า น่าจะมีการปรับขึ้นของตัวเลขผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสในพื้นที่หลบภัยทั้งหลายที่มีคนอยู่รวมกันมากมายในเร็วๆ นี้

รายงานข่าวระบุด้วยว่า ฝนได้หยุดตกในหลายพื้นที่ที่น้ำเริ่มลดลง ซึ่งทำให้ประชาชนในพื้นที่นั้นๆ เริ่มกลับเข้าบ้านมาตรวจสอบความเสียหายบ้างแล้ว