อียูพุ่งเป้าตรวจสอบอุตสาหกรรมสินค้าหรูกรณีผูกขาดธุรกิจ

[FILE] Gucci store on via Condotti, Rome, Italy

อุตสาหกรรมสินค้าหรูที่มีชื่อเสียงของยุโรปกำลังถูกจับตาดูจากหน่วยงานต่อต้านการผูกขาดของสหภาพยุโรป (อียู) หลังเริ่มมีการเข้าตรวจสอบสำนักงานใหญ่แบรนด์กุชชี่ (Gucci) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัทหลายแห่งในหลายประเทศ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์

คณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า หน่วยงานต่อต้านการผูกขาดได้เข้าบุกค้นบริษัทหลายแห่งที่อยู่ในอุตสาหกรรมแฟชั่นในหลายประเทศที่เป็นสมาชิกของอียู แต่ไม่ได้ระบุชื่อของบริษัทที่ถูกค้นหรือเหตุผลของปฏิบัติการดังกล่าว

และในวันพุธ ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หน่วยงานต่อต้านการผูกขาดของอียูกำลังทำการตรวจสอบที่ทำการใหญ่ของบริษัทกุชชี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายการสืบสวนที่กำลังดำเนินอยู่ ขณะที่ แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้เปิดเผยว่า การตรวจสอบธุรกิจกุชชี่นั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อหาว่า บริษัทแห่งนี้ทำการละเมิดมาตรา 101 ของกฎบัตรของอียูหรือไม่

มาตราดังกล่าวมีเนื้อหาสั่งห้ามการทำข้อตกลงใด ๆ ที่จะนำไปสู่การจำกัด การปกป้อง หรือการบิดเบือนสภาวะการแข่งขันภายในอียู ที่จะมีผลต่อการค้าขายระหว่างประเทศสมาชิกอียู

แหล่งข่าวบอกกับรอยเตอร์ว่า การตรวจสอบของหน่วยงานนี้เกิดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของกุชชี่ ในนครมิลาน ซึ่งเว็บไซต์ของบริษัทระบุว่า เป็น Gucci Hub ที่เปิดทำการมาตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2016 โดยเป็นที่ตั้งของทั้งสำนักงานบริหาร โชว์รูมสินค้า สตูดิโอถ่ายภาพ และสถานที่จัดแฟชั่นโชว์

บริษัท เคริ่ง (Kering) จากฝรั่งเศสซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกุชชี่ยืนยันกับผู้สื่อข่าวเมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมาว่า มีการเข้าตรวจสอบธุรกิจนี้จริง และว่า ผู้บริหารให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับการสอบสวนของคณะกรรมาธิการยุโรปในครั้งนี้

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ไม่มีแบรนด์แฟชั่นอิตาเลียนอื่น ๆ ที่ตกเป็นเป้าการสอบสวนครั้งนี้

อันทอน เบลจ์ นักวิเคราะห์จาก Exane BNP Paribas ระบุในบทวิจัยย่อว่า ทีมนักลงทุนสัมพันธ์ของ เคริ่ง ไม่ได้ให้ข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น และให้ความเห็นว่า “การสอบสวนเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องปกติในอุตสาหกรรมสินค้าหรูหรา” แม้ทางบริษัทจะยืนยันว่า การตรวจสอบนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการสืบสวนภาพรวมเท่านั้น

  • ที่มา: รอยเตอร์