เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ วัย 64 ปี ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "บองบอง" ว่าที่ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ วอนสังคมตัดสินตัวตนของเขาจากกระทำ ไม่ใช่ในฐานะทายาทอดีตผู้นำเผด็จการ หลังชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลายเมื่อวันจันทร์
มาร์กอส จูเนียร์ บุตรชายของอดีตผู้นำเผด็จการ "เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส" ที่ถูกโค่นอำนาจไปเมื่อปี ค.ศ. 1986 ออกแถลงการณ์ในวันอังคาร หลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการชี้ว่า เขาเป็นฝ่ายที่ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนอย่างท้วมท้น โดยมีใจความส่วนหนึ่งระบุว่า “อย่าตัดสินผมจากชาติตระกูล แต่จากการกระทำของผมแทน”
คณะกรรมการการเลือกตั้งฟิลิปปินส์ ระบุว่า ผลนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ มาร์กอส จูเนียร์ ได้คะแนนเสียงมากกว่า เลนี โรเบรโด คู่แข่งซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีอยู่ถึง 2 เท่า ขณะที่แมนนี ปาเกียว ยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์ที่ผันตัวมาเล่นการเมือง และลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ มีคะแนนไล่ตามหลังคู่แข่งทั้งสองและประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ไปแล้ว
ทั้งนี้ มีชาวฟิลิปปินส์ออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ถึง 80% ส่วนผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการน่าจะมีการประกาศออกมาในช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ และหลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการออกมา ชาวฟิลิปปินส์จำนวนมาก ออกมาเดินขบวนประท้วงการที่สมาชิกในตระกูลมาร์กอส กลับขึ้นปกครองฟิลิปปินส์อีกครั้ง
สำหรับตระกูลมาร์กอสนั้น หลังอดีตประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ถูกโค่นจากตำแหน่งและสมาชิกทุกคนต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ ก่อนจะกลับมายังบ้านเกิดในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 90 และเดินหน้าเป็นกลุ่มพลังที่เข้มแข็งในแวดวงการเมืองฟิลิปปินส์มาโดยตลอด
- มีเนื้อหาบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์