ปี ค.ศ.2018 เป็นปีที่ร้อนสุดอันดับ 4 ในประวัติศาสตร์

FILE - A neighborhood destroyed by the Camp Fire is seen in Paradise, California, U.S., November 17, 2018.

รายงานของสหประชาชาติ ระบุว่า ปี ค.ศ. 2018 ถือเป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยในระดับที่เป็นอันตรายต่อชีวิตบนโลก

รายงานชี้ว่า ปีที่แล้วระดับอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกอยู่สูงกว่าระดับเฉลี่ยก่อนยุคอุตสาหกรรมราว 1 องศาเซลเซียส

สภาพภูมิอากาศแบบรุนแรงสุดขั้วเมื่อปีที่ผ่านมานั้น เช่น ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย และกรีซ ความแห้งแล้งในอาฟริกาใต้ และน้ำท่วมใหญ่ในอินเดีย

เฉพาะในสหรัฐฯ เกิดภัยธรรมชาติทั้งหมด 14 ครั้ง สร้างความเสียหายเฉลี่ยมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ในแต่ละครั้ง ตามรายงานของสำนักงานบรรยากาศและสมุทรศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NOAA)

โดยปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกสถิติมา คือปี ค.ศ.2016 ตามด้วย 2015 และ 2017 ตามลำดับ

สำหรับปีนี้ เริ่มต้นปีด้วยอุณหภูมิร้อนจัดเป็นสถิติใหม่ที่ออสเตรเลีย ขณะที่หลายส่วนของสหรัฐฯ เผชิญภาวะอากาศหนาวจัดจากปรากฎการณ์ Polar Vortex

รายงานของสหประชาชาติ ชี้ว่า หากระดับอุณหภูมิโลกยังเป็นเช่นนี้ต่อไป โลกจะมีอุหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรมราว 1.5 องศาเซลเซียส ภายในปี ค.ศ. 2052 และ 3 องศาเซลเซียส ภายในปี ค.ศ. 2100

และเพื่อต่อสู้กับเรื่องนี้ 200 ประเทศทั่วโลกได้ร่วมลงนามในสนธิสัญญากรุงปารีสเมื่อปี ค.ศ.2015 เพื่อจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เกินระดับ 2 องศาเซลเซียส

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการถอนสหรัฐฯ ออกจากสนธิสัญญาดังกล่าว แม้ว่าสหรัฐฯ คือหนึ่งในประเทศผู้ผลิตก๊าซคาร์บอนที่เป็นสาเหตุของปรากฎการณ์เรือนกระจกมากที่สุดในโลกก็ตาม