ที่ศาลท้องถิ่น ภายในเมืองพรอวิเดนซ์ (Providence) เมืองใหญ่ของรัฐโรดไอแลนด์ มีคดีความมากมายในแต่ละวัน
แฟรงค์ คาพริโอ (Frank Caprio) หัวหน้าผู้พิพากษาของศาลระดับท้องถิ่น เมือง พรอวิเดนซ์ (Providence) ทำหน้าที่พิพากษาบนบัลลังก์มานานกว่า 30 ปีแล้ว
แม้จะเป็นศาลที่พิจารณาคดีความในท้องถิ่นในเมืองทางตะวันออกของสหรัฐฯ แต่กระบวนการพิจารณาในศาลแห่งนี้กลับเป็นการเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เรื่องราวที่ขึ้นสู่กระบวรการไต่สวนในศาลส่วนใหญ่จะเป็นคดีด้านการจราจร หรืออาชญากรรมทั่วไป และมีการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์ มากว่า 25 ปี เพื่อความโปร่งใส
ปัจจุบันมีรายการ 'Caught in Providence' เผยแพร่ทางออนไลน์และโทรทัศน์ มีผู้ติดตามจำนวนมากที่สนใจกระบวนการพิจารณาคดีของผู้พิพากษา’คาพริโอ’ ที่มีเอกลักษณ์
“ห้องพิจารณาคดีเป็นสิ่งที่รู้สึกได้ถึงความน่ากลัว บรรยากาศรอบข้าง ทั้งคอกไม้ที่กั้นระหว่างห้องพิจารณาคดี ธงที่ติดอยู่ที่ม้ามั่ง ผู้พากษาที่สวมผ้าคลุมยาว เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธปืน มันดูน่ากลัว แต่ผมอยู่ตรงนี้เพื่อดำรงความยุติธรรม และดำรงความยุติธรรมด้วยความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ และ ตรงไปตรงมา” แฟรงค์ คาพริโอ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าววีโอเอ
หลักการสำคัญที่ผู้พิพากษา แฟรงค์ คาพริโอ ผู้พิพากษาแห่งเมืองพรอวิเดนซ์ (Providence) รัฐโรดไอแลนด์ ยึดมั่นและถือปฏิบัติในการพิจารณาคดี คือการเป็นผู้ธำรงความยุติธรรม ด้วย ความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ และตรงไปตรงมา สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้พิพากษา ท่านนี้ได้รับการยกย่อง และการสนับสนุนจากผู้คนทั่วโลก ผ่าน
รายการ 'Caught in Providence' ที่ถ่ายทอดกระบวนการพิจารณาคดีท่ีเกิดขึ้นจริงๆแบบตรงไปตรงมาผ่านสื่อโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ ที่ได้รับการกล่าวถึงและเป็นที่ชื่นชอบจากผู้คนทั่วโลก
ผู้พิพากษา 'คาพริโอ' ยึดหลักของการทำความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ และ ตรงไปตรงมา ไม่ยึดถือตัวกฎระเบียบมากเกินไป แต่ใช้หลักเหตุและผล พิจารณาร่วมด้วย สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ติดตามชมมามากมาย
Your browser doesn’t support HTML5
มีหลายกรณี ที่น่าจะทำให้เห็นได้ชัดในเรื่องนี้ คือคดีเกี่ยวกับกฎหมายจราจร เมื่อผู้ต้องหาขึ้นให้การ และอธิบายเหตุผล มุมมองที่หนักแน่นมากพอ รวมทั้งสามารถพิสูจน์ได้ถึงความน่าเห็นใจในสถานการณ์นั้นๆ บทลงโทษกลับได้รับการยกเว้นโทษ เพื่อเป็นโอกาสให้ผู้ต้องหาได้กลับไปทบทวน และเริ่มต้นใหม่มากกว่าจะลงโทษซ้ำจนไม่มีโอกาสได้ลืมตาอ้าปาก
“ ถ้าคุณจ่ายค่าปรับ 50 ดอลลาร์ไปแล้ว แต่จะเหลือเงินเพียง 5 ดอลลาร์ เพื่อประทังชีวิคตผมจะยกเลิกค่าปรับทุกอย่างให้คุณ.. เราขออวยพรด้วยความปรารถนาดี และหวังอย่างยิ่งว่าทุกสิ่งในชีวิตคุณจะกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง ขอให้คุณโชคดีครับ"
ผู้พิพากษา แฟรงค์ คาพริโอ ตัดสินยกเลิกบทลงโทษใบสั่งให้กับผู้ต้องหาที่มาขึ้นศาลคนหนึ่งที่ค้างค่าปรับคดีจราจรถึง 4 ใบ แต่เธอมีเหตุผลสำคัญว่าชีวิตเธอในช่วงนั้นกำลังพบกับมรสุมร้ายแรงหลังจากลูกชายของเธอถูกฆ่าเสียชีวิต และต้องคอยแก้ปัญหาที่ไม่จบสิ้น
ผู้พิพากษา คาพริโอ เล่าว่า แม้หลายคดีจะต้องงดเว้นบทลงโทษ แต่กลับมีผู้ใจบุญและผู้สนับสนุนจากทั่วโลกที่เห็นรายการ และสัมผัสได้ถึงความเดือดร้อนของผู้คนที่ตกเป็นคดีความ ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
“ผมได้รับจดหมายจากผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเชื่อว่า แองจี้ เชสเซอร์ เธอบอกว่า ได้เงินโบนัสจากที่ทำงานมาเล็กน้อย และอยากจะบริจาคเงิน 100 ดอลลลาร์ เพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆ เธอส่งมาเป็นเงินสดมาในซอง ดังนั้นผมจะใช้เงินจำนวนนี้เพื่อช่วยคุณชำระค่าปรับ” ผู้พิพากษา คาพริโอ กล่าวกับผู้ต้องหาคดีจราจรคนหนึ่งที่ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ โดยใช้เงินจากผู้คนที่บริจาคเข้ามาทดแทน
น้ำใจของผู้คนที่ได้เห็นความเป็นมนุษย์ ได้สัมผัสถึงความเห็นอกเห็นใจระหว่างเพื่อนร่วมโลกคือเหตุผลสำคัญที่ผู้คนได้เรียนรุ้ผ่านการเผยแพร่การพิจารณาคดี ผ่านสื่อ และเชื่อมั่นในความยุติธรรมของศาลท่ีมีต่อประชาชน
“ผมได้รับจดหมายทุกๆวัน ผู้คนส่งจดหมายมาบอกว่า ขอให้ท่านผู้พิพากษาทำหน้าที่ด้วยความเข้าใจ และเห็นอกเห็นใจผู้อื่นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ขณะที่หลายคนนั้น เห็นแนวทางที่ผมปฏิบัติต่อประชาชนในศาลมาก่อนหน้านี้ จึงส่งเงินมาที่ศาล พร้อมกับระบุว่า ขอให้ใช้เงินเหล่านี้เพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆต่อไป” ผู้พิพากษา คาพริโอ กล่าวถึงที่มาของเงินช่วยเหลือ"
ดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านี้ คือจุดสมดุลที่ทำให้ทางการ หรือ เทศบาลท้องถิ่น ไม่ต้องรับผลกระทบจากงบประมาณที่ได้มาจากค่าปรับเพื่อไปบำรุงท้องที่
“ในหลายครั้ง แม้ว่าผมจะพยายามช่วยผู้คนต่างๆ แต่ทางการก็ยังคงได้รับเงินเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย เพราะว่าผมมีผู้ชมจากทั่วโลก ผมมีชาวอีรักส่งเงินมาให้ เช่นเดียวกับจากฝรั่งเศส อิตาลี จีน รัสเซีย จากทั่วโลก รวมไปถึงในสหรัฐอเมริกาด้วย คนเหล่านั้นเขียนเช็คส่งมา ระบุว่า กรุณาใช้เงินในส่วนนี้ช่วยเหลือคนอื่นๆต่อไป เราจึงสัมผัสได้ถึงหัวใจของผู้คนจากทั่วโลก” แฟรงค์ คาพริโอ หัวหน้าผู้พิพากษาของศาลระดับท้องถิ่น ยืนยันถึงความสมเหตุสมผลของกระบวนการยุติธรรมที่เผยแพร่ต่อสาธารณะอย่างตรงไปตรงมา
ในรายการพิจารณาคดี Caught in Providence หลายครั้งที่จะเห็นท่านผู้พิพากษา คาพริโอ เรียกให้เด็กๆขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ พูดคุยในบรรยากาศสบายๆ ถึงขนาดให้เจ้าตัวเล็ก เป็นผู้ตัดสินใจในคดีความ และเรียกเสียงหัวเราะให้กับผู้คนได้อย่างน่าทึ่ง และที่สำคัญคดีเหล่านี้ที่ขึ้นศาลกลายเป็นพื้นที่ของการพบปะและให้โอกาส ต่อผู้ท่ีเคยก้าวพลาด และบอกสอนผ่านการพิจารณคดีด้วยความเข้าใจว่าจะต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด และไม่เกิดขึ้นอีก
การเข้าถึงหัวจิตหัวใจของผู้คนของผู้พิพากษาวัย 83 ปีท่านนี้ มีเหตุผลที่อธิบายได้จากการพูดคุยกับผู้สื่อข่าว วีโอเอ
"คุณพ่อของผมเป็นผู้อพยพมาจากอิตาลี พวกเรายากจนมาก ครอบครัวเราไม่ค่อยมีข้าวของเครื่องใช้อะไรมากนักแต่บ้านเราเต็มเปี่ยมด้วยความรัก พ่อของผมวางอนาคตให้ลูกๆ ของท่านให้มีชีวิตที่ดีขึ้น แต่บางทีผมอาจจะดูเหมือนว่าได้ปีนบันไดแห่งความสำเร็จมาแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เพียงพอสำหรับความสำเร็จ เพราะหัวใจสำคัญคือการที่เราสามารถวางบันไดนั้นลงเพื่อที่จะให้คนอื่นๆ ได้ปีนก้าวขึ้นไปบนบันไดแห่งความสำเร็จนั้นด้วยกัน"