ปธน.อินโดนีเซียเจอแรงกดดันปมเมกะโปรเจคท์ย้ายเมืองหลวง

โจโก วิโดโด (ที่มา: AP/แฟ้มภาพ)

โครงการมูลค่า 32,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อย้ายเมืองหลวงอินโดนีเซียไปยังนูซันตารา เกาะบอร์เนียว กลายเป็นแรงกดดันไปยังประธานาธิบดี โจโก วิโดโด หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้องตัดสินใจลาออก จนทำให้ผู้นำที่กำลังจะลงจากตำแหน่งรายนี้ต้องเดินหน้าเร่งสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนและข้าราชการ ตามการรายงานของรอยเตอร์

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา วิโดโดประกาศว่าจะย้ายไปทำงานที่สำนักงานในนูซันตารา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงปัจจุบันราว 1,200 กม. ในเดือนหน้า

คำประกาศดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากหัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยงานที่ดูแลเรื่องแผนเมืองหลวงแห่งใหม่ ตัดสินใจลาออกโดยไม่มีคำอธิบายในสัปดาห์นี้ จนสร้างบรรยากาศความไม่แน่นอนต่ออนาคตโครงการเมกะโปรเจคท์บนเกาะบอร์เนียว

ยานัวร์ นูโกรโฮ อดีตหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ของประธานาธิบดี กล่าวว่า ท่าทีของวิโดโดในตอนนี้ คือ การพยายามควบคุมความเสียหายที่เกิดขึ้น และคิดว่า ความมั่นใจของนักลงทุนลดลง เนื่องจากความไม่แน่นอนเรื่องสถานะที่ดิน ซึ่งก็เกิดจากปัญหาการบริหารจัดการที่ไม่โปร่งใสของโครงการเมืองใหม่นี้

นูซันตารา เป็นทำเลของโครงการย้ายเมืองหลวงจากจาการ์ตาที่วิโดโดเป็นผู้ประกาศเดินหน้า เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษ การจราจรที่ติดขัดและประชากรที่หนาแน่นในกรุงจาการ์ตา โดยคาดหวังว่า จะเป็นเมืองหลวงที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีแหล่งทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุน

ไม่เพียงเท่านั้น ตัวโครงการยังเผชิญกับปัญหาหลายประการ รวมถึงสถานะของที่ดิน ทรัพยากรน้ำ ความลังเลไม่อยากย้ายถิ่นของข้าราชการ และที่ตั้งของเมืองที่ยังมีการระบาดของโรคมาลาเรีย

หลังสองเจ้าหน้าที่ระดับสูงประกาศลาออกไปได้หนึ่งวัน ปธน.อินโดนีเซียเดินทางไปยังนูซันตารา โดยเขาได้ลงพื้นที่เยี่ยมโรงเรียนและสำนักงานต่าง ๆ และสัญญาว่า การลงทุนจากต่างชาติกำลังจะมาถึง

โฆษกประธานาธิบดีตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับอนาคตของโครงการนี้ โดยอ้างอิงคำพูดเดิมของวิโดโดว่า โครงการจะดำเนินต่อไป

วิโดโด ที่กำลังจะดำรงตำแหน่งครบวาระสองสมัยในเดือนตุลาคม จะส่งมอบอำนาจต่อให้กับปราโบโว ซูเบียนโตที่ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยนักการเมืองรายหนึ่งที่มีข้อมูล กล่าวกับรอยเตอร์ว่า ปราโบโวยังไม่ได้หารืออะไรกับทีมเกี่ยวกับโครงการเมืองหลวงใหม่ แต่คิดว่าโครงการจะเดินหน้าต่อไป เพียงแต่ไม่รวดเร็วเท่ากับรัฐบาลวิโดโด

ปราโบโว ซูเบียนโต

โฆษกของว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ ไม่ได้ตอบรับคำขอความเห็นจากรอยเตอร์ แต่ในทางสาธารณะ ปราโบโวแสดงจุดยืนว่าเขาจะเดินหน้าการย้ายเมืองหลวงต่อไป

นักการเมืองระดับสูงอีกรายกล่าวกับรอยเตอร์ว่า แนวร่วมของปราโบโวยังมีข้อเคลือบแคลงใจกันเป็นการส่วนตัว ว่า อินโดนีเซียจะมีงบประมาณมากพอที่จะย้ายเมืองหลวงไปพร้อม ๆ กับการผลักดันนโยบายหลักที่มีการหาเสียงไว้อย่างโครงการมื้ออาหารฟรี มูลค่ารวม 29,000 ล้านดอลลาร์ หรือไม่

เริ่มต้นตั้งแต่เดือนกันยายนปีนี้ ข้าราชการหลายพันคนจะถูกโยกย้ายไปทำงานที่นูซันตารา แต่การพูดคุยกับข้าราชการสิบกว่าคน มีเพียงสองคนเท่านั้นที่บอกกับรอยเตอร์ว่า ต้องการเดินทางไปตามแผนดังกล่าว และที่เหลือ หากไม่ขอโยกย้ายในภายหลัง ก็จะขอลาออกจากราชการ

ข้าราชการจากกระทรวงการสื่อสารรายหนึ่ง กล่าวกับรอยเตอร์ว่า การไปอยู่ที่เมืองหลวงใหม่ “ไม่ใช่ตัวเลือก แต่เป็นการเซ่นสังเวย” เนื่องจากที่นั่นไม่มีโครงสร้างอะไรรองรับเลย

ดานิส ซูมาดิลากา หัวหน้าฝ่ายงานโครงสร้างพื้นฐานของนูซันตารา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่ย้ายมาใหม่จะสามารถเข้าถึงความต้องการพื้นฐาน ทั้งอพาร์ทเมนท์ น้ำ ไฟฟ้า และอินเทอร์เน็ต

คริส เวรน ประธานฝ่ายบริหารของ BritCham Indonesia กล่าวว่า ทุนจากต่างชาติที่ยังลังเลไม่เข้ามานั้น มีเหตุผลจากการเลือกตั้งก่อนหน้านี้ และความเสี่ยงในด้านอื่น ๆ แต่ตนนี้ก็เริ่มเห็นว่ามีความสนใจกันขึ้นมาแล้วในด้านเมืองอัจฉริยะ การศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน และอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม เวรน มองว่า “ความรู้สึกในจุดนี้ก็คือ ข้อเสนอยังคงห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์แบบ”

  • ที่มา: รอยเตอร์