Your browser doesn’t support HTML5
วีโอเอไทยได้เผยแพร่ภาพที่เป็นข่าวใหญ่ที่ Jeb Bush อดีตผู้ว่าการรัฐฟลอริด้า แห่งตระกูลการเมือง Bush คุกเข่าถวายความรำลึกต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยลเดช เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่พระองค์เสด็จสวรรคต
ชายผู้นั่งเคียงข้างอดีตผู้ว่าการฯ Bush ในวันนั้น คือคุณ Joseph Milano ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอไทย ถึงการแสดงความเคารพพระมหากษัตริย์ไทยโดยบุคคลสำคัญของสหรัฐฯ ผู้นี้ ที่จัตุรัสภูมิพลฯ หรือ King Bhumibol Adulyadej Square ซึ่งเรียกสั้นๆ ว่า King Square ในนครเคมบริดจ์ เมืองพระราชสมภพของพระองค์
คุณ Milano เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ของไทยบริเวณรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ในเขต New England จึงมีความผูกพันกับประเทศไทยและสถาบันกษัตริย์ไทยมานานแล้ว
"ในตอนบ่ายวันนั้น ตนอยู่ที่ King Square และพอดีเห็น Jeb Bush เดินมาใกล้บริเวณจัตุรัสดังกล่าว หลังทราบข่าวการเสด็จสวรรคตของในหลวงของไทย ซึ่งคนตระกูล Bush เคยเป็นพระราชอาคันตุกะของพระองค์ที่ประเทศไทย"
ในเวลานั้นยังไม่มีคนหนาแน่นคับคั่งเช่นเดียวกับตอนค่ำที่จัตุรัสแห่งนี้ และกองดอกไม้ที่คนนำมาถวายแสดงรำลึกถึงพระองค์ดูเหมือนว่าจะเป็นที่เตะตา อดีตผู้ว่าการฯ Jeb Bush ซึ่งเป็นลูกชายของอดีตประธานาธิบดี George H W Bush และน้องชายของอดีตประธานาธิบดี George W Bush
กงสุลกิตติมศักดิ์ Milano กล่าวว่า ในวันนั้น Jeb Bush เป็นอาจารย์พิเศษที่ John F. Kennedy School of Government หรือคณะการเมืองและการปกครองของมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ใกล้ๆ กับ จัตุรัสแห่งนี้พอดี
เมื่อเห็นอดีตผู้ว่าการฯ Jeb Bush ซึ่งคุณ Milano บอกว่าเคยพบกันก่อนหน้านี้ เพราะตนเป็นผู้สนับสนุนคุณพ่อของเขามานาน ตนจึงชวนถวายความรำลึกต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยลเดช อันเป็นที่เคารพของทั้งคู่ร่วมกัน
คำชวนของ Joe Milano ได้รับคำตอบจาก Jeb Bush ว่าตนจะ “รู้สึกเป็นเกียรติ” หากได้แสดงความเคารพพ่อหลวงของไทยด้วยการคุกเข่าหน้ากองดอกไม้
และทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ที่จัตุรัสภูมิพลอดุลยเดช เป็นเวลาประมาณ 5 นาที
เมื่อกงสุลกิตติมศักดิ์ Milano มองเวลาที่ถ่ายภาพดังกล่าว ปรากฏว่าตรงกับ 15:53 น. ที่นครแคมบริดจ์ของสหรัฐฯ เวลาดังกล่าวคือเวลาเสด็จสวรรคตที่ประเทศไทย ซึ่งเร็วกว่าแคมบริดจ์ 11 ชั่วโมง
เมื่อมองย้อนกลับไป Joe Milano ผู้นี้เป็นผู้ร่วมผลักดันให้มีการตั้งพื้นที่ดังกล่าวเป็นการสดุดีพ่อหลวงของไทย ซึ่งพระจัตุรัสแห่งนี้อยู่ใกล้กับโรงพยาบาล Mt. Auburn สถานที่ประสูติของรัชกาลที่ 9
เขาเล่าว่าเมื่อตอนที่ตนร่วมผลักดันให้เกิด King Square ในปี ค.ศ. 1989 หรือ 27 ปีก่อน คณะกรรมการเมืองเคมบริดจ์เห็นด้วยอย่างรวดเร็ว และมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ เพราะผู้ตัดสินใจต่างเข้าใจถึงความสำคัญของสถาบันกษัตริย์ไทย และสิ่งเชื่อมโยงระหว่างนครแห่งนี้กับประราชประวัติของพระองค์เมื่อครั้งทรงพระเยาว์
และแน่นอนว่ากงสุลกิตติมศักดิ์ผู้นี้สะเทือนใจอย่างมากต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยลเดช
เขากล่าวว่าการอุทิศพระองค์ต่อชาวไทยเป็นที่เห็นประจักษ์ทั่วโลก และทุกคนทราบดีว่าพระองค์เป็นมากกว่าสัญลักษณ์ของชาติ เพราะประโยชน์จากโครงการต่างๆ ในพระราชดำริมีผลที่ชัดเจนและจับต้องได้
(สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท)